วันจันทร์ที่ 29 สิงหาคม พ.ศ. 2559

เมื่อช่างเรียงยกหน้าหนังสือลงมาแล้วก็จะเอากระดาษที่มีภาพสวยๆมาถ่ายและเขาก็ประกอบกล่องไฟถ่ายรูปแล้วถ่ายรูป

แบบ โดยเป็นแท่นระบบ โรตารีเมื่อช่างเรียงยกหน้าหนังสือลงมาแล้วก็จะเอากระดาษที่มีไส้ในเป็นกระดาษขับหนาปิดทับลงบนกรอบหน้าแล้วอัด กระดาษนั้นก็จะเป็น แบบสำหรับขดตามรูปโค้งเพื่อเทตะกั่วหล่อออกมาเป็นหน้าๆ ไปผมยืนดูทุกคนทำงานชนิดที่เรียกว่ารีบเร่งจนคุณเซียวหัวหน้าช่างแท่นหันมายิ้มๆ กับผมคล้ายจะบอกว่าไม่น่ามีปัญหาครั้นแล้วหน้าทุกหน้าที่หล่อตะกั่วแล้วก็ถูกยกเข้าไปสอดกับตัวแท่นพิมพ์ อีกไม่กี่นาทีแท่นพิมพ์ก็ กล่องถ่ายรูป จะเดินเครื่องคืนนี้คุณแสงมาอยู่เป็นกำลังใจด้วย แต่ก่อนที่แท่นจะเริ่มเดินรถจี๊ปตำรวจแล่นพรืดมาจอดหน้าสำนักงานมีนายตำรวจสองนายพร้อมตำรวจอีกสองคนก้าวลงมาพร้อมกับยื่นหนังสือให้ หมายความว่าแท่นพิมพ์จะจัดพิมพ์สิ่งใดมิได้เลยภาษาของเราเรียกว่า ล่ามโซ่มันเป็นเวลาสี่ทุ่มพอดี ตำรวจมาเร็วกว่าที่เรารู้ถ้ามาห้าทุ่มจริงเราก็มีหนังสือออกได้ผมเดินขึ้นมาบอกกับพรรคพวกถึงเหตุการณ์ คนที่ไม่อยากกลับบ้านก็คงนอนที่นั่นลักคืนรุ่งเช้าจึงค่อยกลับบ้าน เวลาไม่มีความสำคัญกับพวกเราอีกแล้วเสียงดนตรีตังกระแทกกระทั้นท่ามกลางแสงไฟสลัวๆเสียงนักร้องล่งเสียงเจื้อยแจ้ว เราผมกับราเชนทร์ออกจากสี่พระยาแล้วมา กล่องไฟถ่ายภาพ แวะที่ไนท์คลับ ชาวอย ตรงใกล้กับสุขุมวิท ซอย ๓ซึ่งปัจจุบันไม่มีแล้ว เรามีความเห็นตรงกันว่าถึงจะกลับบ้านตอนนี้ก็คงนอนไม่หลับแวะฆ่าเวลาจนไนท์คลับปิด เราจึงแยกทางกันก่อนที่คุณราเชนทร์จะแยกทางเขายืนมือมาจับมือผมและบีบไว้แน่นถึงจะไม่มืคำพูดหลุดออกมาเราก็ยังคิดว่าลักว้นหนึ่งวิถีชีวิตของคนหนังสือพิมพ์คงจะมืโอกาสได้โคจรมาพบกันอีกผมเดินมาขึ้นรถ นํ้าตาซึมออกมาเองต้องนั่งตั้งสติอยู่นานกว่าจะสตาร์ตรถแล้ว กล่องถ่ายภาพ ขับออกไปการถูกตำรวจบุกเข้าจับกุมที่สำนักงานเดลิเมล์นั้นมืสิ่งหนึ่งที่ค้างคาใจผมอยู่ นั่นคือเพื่อนฝูงบอกว่าตำรวจที่มาได้ค้นโต๊ะหลายโต๊ะล้วนเป็นโต๊ะที่เจ้าของถูกจับทั้งสิ้นผมเอาความในใจนี้ไปถามคุณเซลงจึงได้ความจริงโดยคุณเซลงเล่าว่าในตอนดึกวันนั้นหลังจากงานเสร็จแล้วจึงชวนพรรคพวกบางคนออกไปกินข้าวต้มกันซึ่งมักจะเป็นเรื่องปกติของพวกเราที่อยู่เวรหน้าหนึ่งเมื่อกลับมาก็เดินเลยไปที่ห้องแท่นหยิบหนังสือที่กำลังพิมพ์ขึ้นมาพลิกดู กล่องไฟสตูดิโอ ทุกหน้าก็พบว่าบล็อคหรือแม่พิมพ์ที่บอกถึงผู้เป็นเจ้าของคือ บรืษัท แพร่ข่าว จำกัด บอกชื่อ-นามสกุลของผู้เป็นบรรณาธิการและชื่อของบรรณาธิการผู้ช่วยคือคุณเซลงนั้นคนเข้าหน้าได้ลืมเอาใส่ไว้ซึ่งตรงนี้เป็นข้อบังคับตามกฎหมายคุณเซลงจึงลังหยุดแท่นแล้วจัดการเลาะตะกั่วหัวเรื่องบทน่าออกเอาตะกั่วที่หล่อแจ้งการพิมพ์โฆษณาใส่ลง กล่องไฟ light box ไปแทนกองเอกสารถ้าพบว่าไม่มีรายชื่อตามที่กล่าวมาแล้วจะเรียกไปปรับดูเหมือน 4๐๐๐ บาทเมื่อเรียบร้อยแล้วจึงเดินกลับออกมาจากห้องแท่นแต่ก่อนที่จะกลับขึ้นไปชั้นสองนั้น ยามบอกว่ามีคนแต่งตำรวจมารอพบคุณเซลงจึงให้ไปตามลงมาเป็นตำรวจจริงๆทั้งรถที่จอดรออยู่หน้าสำนักงานก็มีตำรวจสอง-สามนายนั่งอยู่นายตำรวจที่มาขอพบถามหาบรรณาธิการคุณสวัสดิ้ ตัณฑสุทธิคุณเซลงตอบว่าไม่อยู่ จึงถูกชักอีกถึงบ้านพ์กและขอให้คุณเซลงพาไป ตรงนั้นแหละจึงรู้ว่ามีการจับกุมตอนที่ออกจากเดลิเมล์ไปบ้านคุณลวัสดึ๋น่ะราวๆ กล่องไฟถ่ายภาพสินค้า

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น