วันพฤหัสบดีที่ 4 สิงหาคม พ.ศ. 2559


ออกมาให้เห็นหน้ากันหนังสือพิมพ์ในเวลานั่นจัดพิมพ์โดยขึ้นว่าการใช้งานของกล่องไฟถ่ายภาพและการประกอบ

การตามคำสั่งของผู้บังคับบัญชาเมื่อห้องประชุมทำเนียบปิดไม่นานนักห้องประชุมพรรคเสรีมนังคติลากิเปิดรับผู้คนสำคัญเป็นการด่วนในตอนบ่ายวันเดียวกันนั้นเอง ทุกคนเก็บตัวอยู่ในห้องประชุมนอกห้องมืกำลังตำรวจมารักษาการณ์เพิ่มมากขึ้นจนกระทั่งเย็นยํ่าก็ยังไม่เลิกประชุม กลับมีการเสิร์ฟอาหารมื้อเย็นลำเลียงเข้าห้องประชุมดูคล้ายกับว่าจะใช้ที่นึ่เป็นที่บัญชาการดำเนินงานอะไรลักอย่างนักข่าวนั่งรอนอนรอแต่ก็ไม่ได้ข่าวอะไรเพราะคนในไม่ออกมาให้เห็นหน้ากันหนังสือพิมพ์ในเวลานั่นจัดพิมพ์เพียงกรอบเดียวและปิดข่าวในเวลาประมาณ ๒๓.๐๐ น.หลังจากนั่นแล้วจะแก้ไขหรือเสนอข่าวด่วนอะไรไม่ได้ นักข่าวจึงทยอยกัน กล่องถ่ายภาพ กลับระหว่างการประชุมของพรรคเสรีมนังคศิลาจอมพลสฤษดิ์กับกลุ่มนายทหารทั้งหลายก็มาร่วมประชุมกันที่หอประชุมกองทัพบก ซึ่งอยู่ติดกับบ้านสี่เสาฯ และสามารถจะเดินไปถึงกันได้เรียกว่าต่างฝ่ายต่างเคร่งเครียดที่จะช่วงชิงเวลาสำคัญอะไรทำนองนั่นพอตกคํ่ามีรถถังออกมาจอดบริเวณสี่เสาฯและหน้าหอประชุมกองทัพบกมีรถสารวัตรทหารคอยตรวจตราดูแลโดยรอบ แถมยังมีการตั้งรังปีนกลหันออกมาทางถนนใหญ่ด้วยประชาชนที่เดินผ่านต่างมองดูด้วยความแปลกใจความเคลื่อนไหวอย่างนี้มีหรือฝ่ายเสรีมนังคศิลาจะไม่ล่วงรู้ เช่นเดียวกับด้านการข่าวของจอมพลสฤษดิ์ก็มารายงานต่อที่ประชุมว่าจอมอัศวินเผ่าได้เตรียมการที่จะนำกำลังเข้าจับกุม กล่องไฟถ่ายรูป จอมพลสฤษดิ์กับกลุ่มนายทหาร และ ส.ส.ประเภทสองจำนวนหนึ่งที่ลาออกตามจอมพลสฤษดิ์โดยกำหนดเวลาจู่โจม ๐๓.๐๐ น. ในคืนวันนั่น(นับเป็นวันที่ ๑๗กันยายน)สายการข่าวมีรายละเอียดขนาดนี้มีหรือจอมพลสฤษดิ์จะนั่งรอให้มาจับกุม จอมพลสกุษดี้ตัดสินใจรุก ก่อนลังกำลังทหารออกจากค่ายในเวลาสองทุ่มจัดสายกำลังที่จะพุ่งไปควบคุมตามจุดสำคัญๆ เฉพาะอย่างยิ่งการเข้ายึดวังปารุสกวันอันเป็นที่ตั้งสำคัญของตำรวจหน้าที่นี้มอบให้พลจัตวากฤษณ์ สีวะรานำกำลังทหารบุกเข้าไปตามด้วยรถถังจอมพล ป.นั่นออกจากที่ทำการ กล่องถ่ายรูป พรรคในตอนพลบคํ่า แทนที่จะกลับบ้านซอยชิดลมกลับให้รถพาไปที่ทำเนียบรัฐบาล เพื่อคอยสดับรับฟังข่าวและความเคลื่อนไหวต่างๆที่อาจจะเกิดขึ้นเข่นเดียวกับจอมอัศวินเผ่าก็ออกจากที่ทำการพรรคเหมือนกัน ไม่มีใครรู้ว่าไปที่ไหน พร้อมด้วยอัศวินดู่ใจคือพ.ต.อ.พันธุกักดิ้วิเศษกักดี กับพ.ต.อ.พุฒ บูรณสมภพซึ่งปรากฏในภายหลังว่าคนทั้งสามมานั่งเงียบๆในร้านขายเหล้าใกล้สถานีตำรวจสุมพินี มีเหล้าตั้งกลางโต๊ะทั้งสามคนมีอาวุธประจำตัวครบสายฝ่ายทหารจึงตามหาตัวไม่พบระหว่างที่ออกปฏิบัติการพร้อมกันในเวลา ๒๐.๐๐ น.เรียกว่าเป็นการช่วงชิงเวลานั่นเองวังปารุสกกันถูกยึดเรียบร้อย ไม่มีการต่อใดๆรถกังอีกจำนวนหนึ่งออกไปจังก้าหน้ากรมประชาสัมพันธ์และสถานที่ราชการสำคัญๆแม้แต่สถานีโทรทัศน์ก็ไม่เว้น และแน่นอนทำเนียบรัฐบาลย่อมต้อง กล่องไฟสตูดิโอ หนีไม่พ้นการเข้ายึดแต่ปรากฏว่ารถยนต์ ธันเดอร์เบิร์ดของจอมพล ป. ยังจอดอยู่นายทหารที่นำกำลังไปรายงานถึงจอมพลสฤษดิ์ว่าจะให้ปฏิบัติอย่างไรคำลังก็คือ ให้เข้าไปได้และเชิญ จอมพล ป.มาด้วยแต่เมื่อทหารทำตามคำสั่งก็ต้องรีบรายงานว่า ไม่มีจอมพล ป.ที่นั่น กล่องไฟถ่ายภาพสินค้า

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น