วันพุธที่ 24 สิงหาคม พ.ศ. 2559

เมื่อรถยนต์แล่นมาถึงหน้าหอประชุมกองทัพบกในเวลากลางดึกและมีชายคนหนึ่งลงมาจากรถในมือของเขาถือกล่องไฟถ่ายภาพลงมาด้วย

เมื่อรถยนต์แล่นมาถึงหน้าหอประชุมกองทัพบกในเวลากลางดึกหนีไม่พ้นที่ทหารยามรักษาการณ์ต้องขอให้ลดกระจกลง ยามรักษาการณ์เห็นหน้าคนในรถสามคนเชิญให้ลงจากรถพล.ต.อ.เผ่าส่งเสียงแสดงความไม่พอใจ ถามว่า ลงทำไมทหารก็บอกอย่างนอบน้อมว่าต้องขอตรวจก่อนเผื่อจะพกอาวุธติดมาด้วย
ขณะที่มีการตรวจอยู่นั้น ทหารยามอีกคนก็รีบแจ้งเข้าไปภายในหอประชุมว่าพล.ต.อ.เผ่ามาแล้วพร้อมกับนายตำรวจจากนั้นจึงกลับขึ้นรถแล่นไปจอดที่หน้าอาคารด้านในทันทีที่รถจอดและคนในรถก้าวลงมาจอมพลสฤษดึ๋กเดินออกมา กล่องถ่ายภาพ พร้อมนายทหารอีกหลายคนพล.ต.อ.เผ่าแลเห็นจึงส่งเสียงทักทาย นํ้าเสียงบอกให้รู้ว่ามีอาการมึนเมา อั๊วมาแล้วมาตามประกาศเรียกของลื้อแล้วก้าวเข้าไปหยุดตรงหน้าแล้วทำไมต้องค้นตัวด้วยวะเพื่อนกันเจอวันนี้ก็ต้องมือเปล่าถึงจะถูกหัวหน้าคณะทหารส่งเสียงดังฟังชัดเช่นเดียวกันแล้วจอมพลสฤษดี้ก็ก้าวออกมาหยุดตรงหน้าคว้าคอมากอดไว้ เราเป็นเพื่อนกันนี่หว่า เรื่องอะไรจะต้องฆ่าแกงกันถือว่าเป็นการทักทายเหมือนไม่มีเหตุอะไรเกิดขึ้นอัศวินทั้งสองเดินตามนายที่จอมพลสฤษดิ้รั้งคอเดินเข้าไปพลางทั้งนายทหารให้เอาเหล้ามาเลี้ยงแม้ว่าจะมีนํ้า กล่องไฟถ่ายรูปเปลี่ยนนิสัยมาดวดดื่มกันทีท่าที่ดูว่าจะรุนแรงกลับค่อยๆ เปลี่ยนไปสองนายตำรวจอัศวินคู่ใจก็นั่งเงียบๆ ดื่มพลางฟังเจ้านาย สนทนากันไปพลางหยิบเอาอดีตเก่าก่อนที่อยู่ร่วมกันมารื้อฟันจนกระทั้งมาลงเอยเอาด้วยคำถามของหัวหน้าคณะทหารเลือกเอาว่าจะไปประเทศไหนก็จะจัดการลืงไปนึกว่าไปเที่ยวเมืองนอกจักทัก กล่องถ่ายรูป พอให้เหตุการณ์มันซาลงไปคลี่คลายไปในทางที่ดีแล้วอาจจะขอกลับมาได้จอมอัศวินเงียบไปสักพักหนึ่งแล้วจึงเอ่ยพลางชายตาไปทางสองอัศวินที่นั่งถัดไป แล้วลูกน้องสองคนนี่กับอีกหลายคนสองคนนี่ก็ให้ตามไปด้วยกันส่วนคนอื่นอั๊วสงสัยว่าคงเผ่นกันถ้ารู้ว่าลื้อต้องไปนอกบรรยากาศที่ดูว่าดีขึ้นมาตามลำดับเริ่มอึดอัดเพียงแต่ว่าท่าทางคงสงบและเงียบ เมื่อมันจำเป็นจริงๆ อั๊วฃอไปสวิสตกลง อั๊วจะจัดการให้เป็นคำตอบรับที่มาพร้อมกับยื่นมือไปตบหลังเป็นเซิงปลอบใจอยู่ในทีจากนั้นจอมพลสโเษดี้ก็มอบหมายให้พลจัตวากฤษณ์สีวะรา กล่องไฟสตูดิโอ ดูแลพร้อมทั้งติดต่อไปทางบ้านตามแต่พล.ต.อ.เผ่าจะทั้งให้เก็บข้าวของอะไรมารวมทั้งสองนายตำรวจด้วยโดยที่ทั้งสามคนยังคงอยู่ที่หอประชุมกองทัพบกการติดต่อสายการบินคือเคแอลเอ็มที่บินไปยังเจนิวาติดต่อไปถึงสถานเอกอัครราชทูตจนเสร็จเรียบร้อยกำหนดเครื่องบินออกเดินทางคือเวลา ๑๓.๓๐ น. ของวันที่ ๑๗ กันยายนทั้งสามคนอยู่ภายใต้การดูแลของพลจัตวากฤษณ์โดยออกจากหอประชุมกองทัพบกตรงดิ่งไปสนามบินดอนเมืองเท่ากับว่าบุคคลทั้งสามไม่มีโอกาสได้พบหน้าค่าตาครอบครัวมากไปกว่าการพูดรํ่าลากันทางโทรดัพท์เท่านั้นเมื่อถึงสนามบินเป็นเวลาใกล้เคียงกับเวลาของเครื่อง
กล่องไฟถ่ายภาพสินค้า

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น