วันจันทร์ที่ 29 สิงหาคม พ.ศ. 2559

เมื่อช่างเรียงยกหน้าหนังสือลงมาแล้วก็จะเอากระดาษที่มีภาพสวยๆมาถ่ายและเขาก็ประกอบกล่องไฟถ่ายรูปแล้วถ่ายรูป

แบบ โดยเป็นแท่นระบบ โรตารีเมื่อช่างเรียงยกหน้าหนังสือลงมาแล้วก็จะเอากระดาษที่มีไส้ในเป็นกระดาษขับหนาปิดทับลงบนกรอบหน้าแล้วอัด กระดาษนั้นก็จะเป็น แบบสำหรับขดตามรูปโค้งเพื่อเทตะกั่วหล่อออกมาเป็นหน้าๆ ไปผมยืนดูทุกคนทำงานชนิดที่เรียกว่ารีบเร่งจนคุณเซียวหัวหน้าช่างแท่นหันมายิ้มๆ กับผมคล้ายจะบอกว่าไม่น่ามีปัญหาครั้นแล้วหน้าทุกหน้าที่หล่อตะกั่วแล้วก็ถูกยกเข้าไปสอดกับตัวแท่นพิมพ์ อีกไม่กี่นาทีแท่นพิมพ์ก็ กล่องถ่ายรูป จะเดินเครื่องคืนนี้คุณแสงมาอยู่เป็นกำลังใจด้วย แต่ก่อนที่แท่นจะเริ่มเดินรถจี๊ปตำรวจแล่นพรืดมาจอดหน้าสำนักงานมีนายตำรวจสองนายพร้อมตำรวจอีกสองคนก้าวลงมาพร้อมกับยื่นหนังสือให้ หมายความว่าแท่นพิมพ์จะจัดพิมพ์สิ่งใดมิได้เลยภาษาของเราเรียกว่า ล่ามโซ่มันเป็นเวลาสี่ทุ่มพอดี ตำรวจมาเร็วกว่าที่เรารู้ถ้ามาห้าทุ่มจริงเราก็มีหนังสือออกได้ผมเดินขึ้นมาบอกกับพรรคพวกถึงเหตุการณ์ คนที่ไม่อยากกลับบ้านก็คงนอนที่นั่นลักคืนรุ่งเช้าจึงค่อยกลับบ้าน เวลาไม่มีความสำคัญกับพวกเราอีกแล้วเสียงดนตรีตังกระแทกกระทั้นท่ามกลางแสงไฟสลัวๆเสียงนักร้องล่งเสียงเจื้อยแจ้ว เราผมกับราเชนทร์ออกจากสี่พระยาแล้วมา กล่องไฟถ่ายภาพ แวะที่ไนท์คลับ ชาวอย ตรงใกล้กับสุขุมวิท ซอย ๓ซึ่งปัจจุบันไม่มีแล้ว เรามีความเห็นตรงกันว่าถึงจะกลับบ้านตอนนี้ก็คงนอนไม่หลับแวะฆ่าเวลาจนไนท์คลับปิด เราจึงแยกทางกันก่อนที่คุณราเชนทร์จะแยกทางเขายืนมือมาจับมือผมและบีบไว้แน่นถึงจะไม่มืคำพูดหลุดออกมาเราก็ยังคิดว่าลักว้นหนึ่งวิถีชีวิตของคนหนังสือพิมพ์คงจะมืโอกาสได้โคจรมาพบกันอีกผมเดินมาขึ้นรถ นํ้าตาซึมออกมาเองต้องนั่งตั้งสติอยู่นานกว่าจะสตาร์ตรถแล้ว กล่องถ่ายภาพ ขับออกไปการถูกตำรวจบุกเข้าจับกุมที่สำนักงานเดลิเมล์นั้นมืสิ่งหนึ่งที่ค้างคาใจผมอยู่ นั่นคือเพื่อนฝูงบอกว่าตำรวจที่มาได้ค้นโต๊ะหลายโต๊ะล้วนเป็นโต๊ะที่เจ้าของถูกจับทั้งสิ้นผมเอาความในใจนี้ไปถามคุณเซลงจึงได้ความจริงโดยคุณเซลงเล่าว่าในตอนดึกวันนั้นหลังจากงานเสร็จแล้วจึงชวนพรรคพวกบางคนออกไปกินข้าวต้มกันซึ่งมักจะเป็นเรื่องปกติของพวกเราที่อยู่เวรหน้าหนึ่งเมื่อกลับมาก็เดินเลยไปที่ห้องแท่นหยิบหนังสือที่กำลังพิมพ์ขึ้นมาพลิกดู กล่องไฟสตูดิโอ ทุกหน้าก็พบว่าบล็อคหรือแม่พิมพ์ที่บอกถึงผู้เป็นเจ้าของคือ บรืษัท แพร่ข่าว จำกัด บอกชื่อ-นามสกุลของผู้เป็นบรรณาธิการและชื่อของบรรณาธิการผู้ช่วยคือคุณเซลงนั้นคนเข้าหน้าได้ลืมเอาใส่ไว้ซึ่งตรงนี้เป็นข้อบังคับตามกฎหมายคุณเซลงจึงลังหยุดแท่นแล้วจัดการเลาะตะกั่วหัวเรื่องบทน่าออกเอาตะกั่วที่หล่อแจ้งการพิมพ์โฆษณาใส่ลง กล่องไฟ light box ไปแทนกองเอกสารถ้าพบว่าไม่มีรายชื่อตามที่กล่าวมาแล้วจะเรียกไปปรับดูเหมือน 4๐๐๐ บาทเมื่อเรียบร้อยแล้วจึงเดินกลับออกมาจากห้องแท่นแต่ก่อนที่จะกลับขึ้นไปชั้นสองนั้น ยามบอกว่ามีคนแต่งตำรวจมารอพบคุณเซลงจึงให้ไปตามลงมาเป็นตำรวจจริงๆทั้งรถที่จอดรออยู่หน้าสำนักงานก็มีตำรวจสอง-สามนายนั่งอยู่นายตำรวจที่มาขอพบถามหาบรรณาธิการคุณสวัสดิ้ ตัณฑสุทธิคุณเซลงตอบว่าไม่อยู่ จึงถูกชักอีกถึงบ้านพ์กและขอให้คุณเซลงพาไป ตรงนั้นแหละจึงรู้ว่ามีการจับกุมตอนที่ออกจากเดลิเมล์ไปบ้านคุณลวัสดึ๋น่ะราวๆ กล่องไฟถ่ายภาพสินค้า
ตามคำเชิญร่วมกับนักหนังสือพิมพ์ฉบับอื่นและยังไม่มีกำหนดกลับถ้าคุณยังไม่บอกวิธีการประกอบกล่องไฟสตูดิโอและผมก็จะบอกวิธีการถ่ายภาพให้ด้วย

คล้ายนาค กับคุณประเวทย์ บูรณะกิจบางกอกเดลิเมล์ ไม่อยู่ในเมืองไทย โดยเดินทางไป จีนแดงตามคำเชิญร่วมกับนักหนังสือพิมพ์ฉบับอื่นและยังไม่มีกำหนดกลับถ้านับรวมเฉพาะที่อยู่ประจำแล้วก็คน ทั้งสี่คนถูกข้อหา มีการกระทำเป็นคอมมิวนิสต์กฎหมายที่เป็นเสมือนแหที่เหวี่ยงออกไปในกลุ่มคนที่มืรายซื่ออยู่ในบัญชีของสันติบาลเรื่องนี้คุณเสรีมศรี กล่องไฟถ่ายภาพ เอกชัยเล่าถึงการจับกุมครั้งนี้ว่า มันเป็นเรื่องการเมืองที่จะต้องเอาใจอเมริกาผู้กำลังปราบคอมมิวนิสต์อย่างบ้าคลั่งในขณะนั้นเพื่อแลกกับเงินช่วยเหลือมากกว่า ๒ พันล้านบาทและเล่าย้อนความไปถึงปี ๒๕๐๐ ยุคทีจอมพลป. กำลังฟูเองพร้อมด้วยบารมียิ่งใหญ่ของจอมอัศวิน เผ่าโดยได้ส่งนายตำรวจใหญ่ที่คุ้นเคยกับคุณแสง เหตระกูล เจรจาให้ทุนเดลิเมล์๑๐ ล้านบาท คุณสนิททราบเรื่องจากคุณแสงและตกลงกันที่จะไม่รับเงินที่เสนอมา ซึ่งมีเงื่อนไขว่าจะต้อง กล่องถ่ายภาพ เชียร์คุณเผ่าเงินสิบล้านสมัยนั้นถือว่าเป็นจำนวนไม่น้อยเลยการปฏิเสธทำให้นายตำรวจใหญ่ผู้นั้นโกรธมากถึงกับซี้หน้าคุณสนิทว่าระวังตัวให้ดีและนั่นอาจเป็นเหตุผลหนึ่งที่ว่าทำไมชื่อคุณสนิทจึงเข้าไปอฐ่ในบัญชี คอมมิวนิสต์ในตอนสายของวันนั้นพวกเรายังอยู่กันพรักพร้อม รอว่าจะทำอย่างไรต่อไป คุณแสงโทรตัพท์ถึงผมขอให้ลงไปพบ และเมื่อรู้ว่าคุณราเชนทร์ก็อยู่ด้วยจึงขอให้ลงไปพร้อมกันเราสองคนเข้าไปพบคุณแสงในห้องชั้นล่างเวลานี้เท่ากับเขายึดใบอนุญาตการเป็นบรรณาธิการของคุณสนิทเขายังไม่ได้ลังเกี่ยวกับเรื่องแท่นพิมพ์ กล่องไฟถ่ายรูป คุณสองคนคิดว่ายังไงผมคิดว่า ผู้อำนวยการบอกมาเลยว่าจะให้เราทำยังไงคุณแสงหันมาทางผม คุณถาวรพร้อมไหมที่จะจดทะเบียนเป็นบรรณาธิการผมหันมามองหน้าคุณราเชนทร์เป็นเซิงปรึกษาแล้วจึงตอบว่าถ้าผู้อำนวยการจะสามารถขออนุญาตได้ผมก็พร้อม แล้วหันมาหาราเชนทร์อีก นายว่ายังไงเอาเลย คุณราเชนทร์หนุนล่งถ้ายังงั้นคุณสองคนจัดการเรื่องที่ กล่องไฟ light box จะออกหนังสือพิมพ์ที่จะใช้ชื่อบางกอก ไม่มีคำว่าเดลิเมล์เรื่องใบอนุญาตผมจะจัดการเองเท่านั้นเราก็กลับขึ้นมาข้างบนจัดการบอกกล่าวกับเพื่อนฝูงที่ยังอยู่กันพรักพร้อมและที่ขาดไม่ได้ก็คือสายสันติบาลจะต้องไปดูว่าพวกเราถูกคุมขังที่ไหนและมีใครอื่นอีกที่ถูกจับมาคราวนี้จากนั้นคุณราเชนทร์ก็จัดการเกี่ยวกับหน้าในทั้งหมดหน้าต่างประเทศไม่มี ให้เอาภาพเหตุการณ์เมื่อคืนมาใส่ให้เต็มแบ่งงานกันทำด้วยหวังว่าจะออกวางตลาดเช้าวันรุ่งขึ้นนักข่าวกลับเข้ามาเขียนรายงานการจับกุมซึ่งมีนักหนังสือพิมพ์อื่นถูกจับมาด้วยอีกหลายคนลงว่าสถานการณ์เป็นบรรยากาศของการละก็ สายอาชญากรรมแทบไม่ต้องตระเวนขโมยขโจรจะรู้เชิงว่าขืนสุ่มสี่สุ่มแปดไปทำร้ายผู้คนหรือสักทรัพยัในภาวะเช่นนี้ โทษจะหนักกว่าปกตินักข่าวโรงพักจึงเปลี่ยนไปตระเวนดูและเก็บภาพทั่วๆ ไปการทำงานครั้งนี้ต่างเร่งรีบกันมากทีเดียวคุณรา กล่องไฟสตูดิโอ ราคา เซนทรีหนักกว่าผมซึ่งจะดูแลหน้าหนึ่ง...ความมืดคืบคลานเข้ามาแล้ว ประมาณสองทุ่มเห็นจะได้ นักข่าวสันติบาลส่งเสียงมาว่าเขาได้ยินว่าตำรวจจะมายึดแท่นพิมพ์ราวๆ ห้าทุ่มผมบอกกับคุณราเชนทรีให้รับรู้ด้วยเวลานั้นมีเหลือหน้าหนึ่งกับหน้าต่อข่าวเท่านั้นอย่างไรเสียก็คงจะได้ยินเสียงแท่นพิมพ์ทำงาน เราคิดกันว่าคือขัยชนะของเราด้วยผมจะถามไปทางช่างเรียงตลอดเวลาว่าทำไปถึงไหนแล้ว ยกหน้าต่อลงไปที่ห้องแท่นหรือยัง หน้าใน ตบแบบหมดหรือยัง และสุดท้ายผมถามว่า ลี่ทุ่มเส!จไหมคำตอบต้องมาจากห้องแท่นคือน่าจะเรียบร้อยผมนั่งไม่ติดเดินลงไปที่ห้องแท่นพิมพ์ซึ่งสมัยนั้นใช้แท่น ตบ กล่องไฟถ่ายรูปสินค้า
ทุกคนได้อุ่นใจผมจึงกลับไปนอนโดยตั้งใจว่าจะตื่นแต่เช้ามาถ่ายภาพกับกล่องไฟถ่ายภาพ

เอาไว้นายมาพรุ่งนี้เช้าก็แล้วกัน...คุณสถุษดิ้ยึดอำนาจพวกเราไม่กระเทือนหรอกประโยคหลังพูดเป็นเชิงเปรยให้ทุกคนได้อุ่นใจผมจึงกลับไปนอนโดยตั้งใจว่าจะตื่นแต่เช้ามีเสียงตบประดูดังแรงถี่ๆ สอง-สามครั้งพร้อมเสียงเรียก คุณถาคุณถาตื่นเถอะผมจำเสียงได้ว่าเป็นคุณรวยภรรยาคุณทองพันธุจึงลุกมาเปิดประตูตำรวจมาที่บ้านคุณหนิท กล่องถ่ายภาพ คุณรวยบอกผมกลับเช้าในห้องชะโงกไปมองทางหน้าต่าง ใช่ จริงด้วย มีตำรวจ ๒-๓นายอยู่ที่เฉลียงบ้านคุณสนิทผมไม่รอช้าจัดแจงล้างหน้าแปรงฟันคว้าเสื้อกางเกงมาสวมอย่างรีบเร่งโดดขึ้นรถถอยออกจากใต้ถุนเรือนขึ้นขอบถนนแล้วขับออกไปจนถึงถนนทางแยกจึงเร่งเครื่องไปยังสี่พระยาอย่างเร่งรีบพอถึงหน้าสำนักงานผมรีบเดินและกำลังจะเลี้ยวไปที่บันไดตำรวจคนหนึ่งเดินนำหน้าลงมาถัดไปเป็นคุณสนิทและตำรวจอีกหลายคน ผมไม่ได้ลังเกตว่ามีคุณเซลง กัทลีรดะพันธุ์ หรือน้าหอม ด้วยหรือเปล่าคุณสนิทไม่ได้พูดอะไรกับผมพอตำรวจผ่านลงมาหมดแล้วผมจึงเดินขึ้นบันไดไปพบ ม.ล.เฉลิมจิตร คเนจรเดินออกมาจากห้องโถง กล่องไฟถ่ายรูป พอดีผมแวบขึ้นมาได้จึงเอ่ยถาม หม่อม แล้วพี่อิศร์ล่ะก็ไม่รู้เหมือนกัน หม่อมบอกงั้นหม่อมไปกับผม เราจะไปบ้านพี่อิศร์กันผมรู้จัก ม.ล.เฉลิมจิตรพยักหน้าจากนั้นก็มาขึ้นรถของผมบึ่งออกจากสี่พระยาข้ามไปฝังธนบุรี ถนนยังไม่จอแจเพราะยังเช้าอยู่มาก หม่อมบอกว่าเมื่อคืนนอนที่โรงพิมพ์ คุณสนิทนอนห้องทำงานด้านในพอรู้สึกตัวตำรวจก็เช้ามาแล้วใครก็ไม่รู้เช้าไปปลุกคุณสนิท จะเจรจากันยังไงหม่อม ไม่ได้ยินผมควบเฟียต KT๕0 คูเป้ กล่องไฟสตูดิโอ ประมาณว่า ๒๐นาทีเห็นจะได้ ผมก็มาถึงวงเวียนใหญ่เลี้ยวซ้ายไปพร้อมกับชำเลืองดูซอยที่อยู่ทางขวามือซอยจำไม่ได้ครับแล้วจอดเมือถึงทีหมายล็อกรถก็พากันเดินเข้าซอยด้วยความรีบเร่ง หม่อม คิดว่าจะมีตำรวจไหม.ล.เฉลิมจิตรบอกไม่รู้เหมือนกันแต่ที่ปากซอยไม่มืรถตำรวจสักคันเลย...อาจจะยังมาไม่ถึงก็ได้นะพูดเหมือนปลอบใจแล้วเราก็แทบจะก้าวต่อไปไม่ได้เมื่อปรากฏว่าตำรวจยืนกันเต็มราวสี่-ห้าคน พี่อิศร์หรือคุณอิครา อมันตกุลแต่งตัวเสร็จแล้ว สีหน้าของพี่อิศร์เรียบเฉยเพียงแต่หันมายิ้มให้เราสองคนเมื่อเดินผ่านหน้าไป กล่องไฟ light box กับตำรวจพี่แหม่ม (คุณสเริงรมย์)ภรรยาพี่อิศร์บอกให้เข้าบ้านก่อน แต่เราขอตัวผมแวะมาดูเท่านั้นเองครับ ผมบอกแล้วชวนหม่อม ถอยออกมาจากบ้านของพี่อิศร์เมื่อกลับมาถึงสำนักงานอีกครั้งผมได้พบคุณราเชนทร์ วัฒนบเรีชากุล และเพื่อนนักข่าวอีกหลายคนหยิบหนังสือพิมพ์เช้าวันนั้นมาดูก็พบพาดหัวตัวใหญ่ สฤษดิ้ปฏิวัติ-ล้มรัฐธรรมพูญต่อจากนั้นจึงได้ข่าวตามมาว่า ตำรวจได้ไปจับคุณสวัสดี้ ตัณฑสุทธิ้ในฐานะบรรณาธิการ จับน้าหอม ไปด้วย โดย น้าหอมนอนที่สำนักงานและตำรวจให้พาไปค้นหนังสือที่บ้านเวลานั้นมืคนสองคนที่ประจำกองบรรณาธิการเดลิเมล์คือเฉลิม กล่องไฟถ่ายรูปสินค้า
ในเวลานั้นต้องถือว่ายังอยู่ภายใต้การใช้การสอนประกอบกล่องไฟถ่ายรูปรวมถึงการถ่ายภาพให้ได้ภาพสวยๆ

การขึ้นสู่เก้าอี้นายกรัฐมนตรีของพลเอกถนอมกิตติขจร ในเวลานั้นต้องถือว่ายังอยู่ภายใต้การบัญชาการของจอมพลสฤษดิ้ ผู้เป็นหัวหน้าคณะทหารและแม้ว่าพลเอกถนอมจะเป็นคนหนึ่งในคณะทหารด้วยก็ไม่ได้หมายความว่าจะดำเนินการทุกอย่างในการบริหารประเทศไปตามอำเภอใจยิ่งมีเหตุการณ์วิพากษวิจารณ์ท่าทีของรัฐบาลว่าถูกสหรัฐอเมริกา กล่องถ่ายรูป จุงจมูกโดยที่นายกรัฐมนตรีไม่สั่งการอย่างหนึ่งอย่างใดลงไปฉะนั้นเมื่อจอมพลสฤษดึ๋ล้มปวยจนต้องเข้ารับการผ่าตัดและรักษาที่โรงพยาบาลวอสเตอร์เด สหรัฐและได้รับความใส่ใจอย่างดีมากพร้อมๆกับพูดเป็นเชิงต่อว่าในทำนองที่รัฐบาลไทยน่าจะกระทำอย่างใดอย่างหนึ่งกับบรรดาหนังสือพิมพ์เหล่านั้นกระทั่งหนังสือพิมพ์ที่เป็นของจอมพลสฤษดิ้เองก็วิจารณ์การทำงานของสหรัฐอย่างเสียหายในส่วนที่เข้ามาเกี่ยวข้องกับประเทศไทยหนังสือพิมพ์สารเสรีจึงเจอพายุในทะเลนํ้าหมึกหากแต่บรรณาธิการคือ นายทนง ศรัทธาทิพย์ ขอลาออกสตาฟฟักองบรรณาธิการ กล่องไฟถ่ายภาพ  ฝ่ายโฆษณาและแม้แต่ทนายความประจำก็เปิดหมวกอำลาไปด้วยว่ากันว่าการกระทำเช่นนั้นสร้างความขุ่นเคืองแก่จอมพลสฤษดี้เป็นอย่างมากจอมพลสถุษดิ้จึงตัดสินใจดำเนินการโดยลังความผ่านนายทหารที่ติดตามดูแลใกล้ชิดถึงวันที่จะเดินทางมาถึงประเทศไทย นัยว่าเตรียมกำลังไว้พร้อมสรรพนั้นเอง โดยรู้กันกับพลเอกถนอมกิตติขจร นายกรัฐมนตรี ที่ยื่นหนังสือลาออกจากการเป็นนายกฯในตอนสายวันที่ ๒๐ตุลาคม ๒๕๐๑พอตกบ่ายเครื่องบินจากสหรัฐอเมรีกาก็ร่อนลงดอนเมือง จอมพลสฤษดิ้ก้าวออกมาและเดินตรงไปที่รถยนต์ที่เข้า กล่องถ่ายภาพไปจอดรับถึงเซิงบันไดเครื่องบินข่าวการกลับมาและการลาออกต้องถือว่าเป็นข่าวใหญ่ของหนังสือพิมพ์แต่เมื่อสถานีวิทยุกรมประชาสัมพันธ์นำเอาเพลงมาร์ซออกมาบรรเลงชั่วครู่ในเวลาสองทุ่มก็เป็นประกาศของคณะปฏิวัติอันมืจอมพลสฤษดิ้ธนะรัชต์ ผู้บัญชาการทหารสูงสุดเป็นหัวหน้าคณะยึดอำนาจการปกครองประเทศและประกาศที่ตามมาว่าให้ยกเลิกรัฐธรรมญแห่งราชอาณาจักรและสุดท้ายลังยุบพรรคการเมืองที่มือยู่ทั้งหมดการประกาศยึดอำนาจ กล่องไฟสตูดิโอ นี้ผมอยู่บ้านและยังเขียนหนังสืออยู่ได้ยินประกาศชัดเจนรีบเปลี่ยนเสื้อผ้ามาขึ้นรถส่วนตัวที่ใต้ถุนบ้านซึ่งเป็นบ้านคุณทองพันธ์ สุวรรณทัตผู้จัดการหนังสือพิมพ์นครสารรายวัน ต่อเติมห้องหับให้ผมได้อยู่อาศัยด้วยผมถอยรถออกมาขึ้นถนนหน้าบ้านซึ่งค่อนข้างคับแคบ ถ้าไม่ระวังล้อตกถนนก็มืหวังหล่นลงไปในคลองไผ่สิงโตคลองเดียวกับที่จอมอัศวินเอาอาวุธปีนโยนลงในคลองก่อนไปรายงานตัวพอออกมาถึงถนนใหญ่ก็บึ่งไปสี่พระยาทันทีผมเดินขึ้นสำนักงานที่สว่างไสวด้วยแสงไฟเพราะนักข่าวยังทำงานกัน มีการลังรื้อหน้าเพื่อเอาข่าวปฏิวัติเข้าแทนที่ผมเดินไปพบคุณสนิทที่อยู่ห้องข้างในโดยบอกว่ามีอะไรจะให้อยู่ช่วยหรีอเปล่า คุณสนิทยิ้มๆ
กล่องไฟถ่ายรูปสินค้า
เพราะนี่เป็นเรื่องเฉพาะตัวผมเท่านั้นไม่เกี่ยวกับการทำงานของพวกคุณทุกคนเพราะผมต้องอธิบายการใช้กล่องไฟถ่ายภาพและการประกอบ

ผมขอเสนอให้ผู้อำนวยการเลือกข้อสองคือผมขอลาออกและขอร้องให้พวกเราในกองบรรณาธิการทุกคนอย่าลาออกตามผม เพราะนี่เป็นเรื่องเฉพาะตัวผมเท่านั้นไม่เกี่ยวกับการทำงานของพวกคุณทุกคนนั่งนิ่งเงียบไปชั่วขณะแม้แต่ผู้อำนวยการเองก็ไม่กล่าวอะไรแต่พอนายทนงลุกออกจากที่ประชุมกองบรรณาธิการที่นั้งอยู่ก็ทยอยกันเดินตามมาด้วยในวันนั้นทุกคนยังทำงานตามปกติแม้แต่บทนำของหนังสือพิมพ์ประจำวันที่ ๒๐ พฤษภาคม กล่องถ่ายภาพ นายทนงยังได้เขียนอำลาผู้อ่านมาบัดนี้แม้ว่าข้าพเจ้าและมิตรสหายร่วมทางสายเดียวกันนี้จะตระหนักดีว่าภารกิจที่เผชิญหน้านักหนังสือพิมพ์ที่เคารพในวิชาชีพของตนบังอีกมากมายหลายด้านก็ตามแต่สิงที่ขัดขวางก็เกิดขึ้นตามมาหลายประการจนสุดวิสัยที่เราจะปฏิบัติต่อได้อีกมันเป็นอุปสรรคที่โดยมารยาทแล้ว เราเห็นว่าไม่ควรที่จะเป็ดเผยไว้ในที่นี้อุปสรรคอันนี้ทำให้ข้าพเจ้าและกองบรรณาธิการสารเสรีชุดนี้จำเป็นต้องอำลามิตรผู้อ่านไปก่อนนั่นคือบางตอนของบทนำที่ผมเห็นว่าน่านำเสนอในการทำงานของนักหนังสือพิมพ์ซึ่งยุคนั้นมักจะปรากฏอยู่บ่อยระหว่างความขัดแย้งของนายทุน กับกองบรรณาธิการ จนเกิดภาวะยกสตาฟฟ์ กันบ่อยๆสตาฟพ์ชุดนี้ผมจะไม่ กล่องไฟถ่ายรูป เสนอรายละเอียดมากนักเพียงแค่ไม่กี่คนซึ่งเป็นที่รู้จักกันกว้างขวาง เช่นทวี เกตะวันดี เจน จำรัสศิลป์ สนอง มณีศรีสมาน คำพิมาน ฉัตร บุณยศิรีขัย พินิจ นันทวิจารณ์ โรม บุนนาค เป็นต้นแถมยังมีฝ่ายจัดการโฆษณา นายนรา พฤฒินันทน์กับทนายความประจำคือ สิน เผ่าพันธุ์เลิดรวมแม้กระทั่ง ล้อม สุทธิสารเด็กหนุ่มที่มีหน้าที่รับใช้กองบรรณาธิการก็พลอยลาออกไปด้วยโดยไม่ทำให้หนังสือพิมพ์หยุดชะงักแต่อย่างใดบริษัทธนะการพิมพ์ผู้เป็นเจ้าของสารเสรี กล่องถ่ายรูป นี้ยังมีหนังสือพิมพ์รายวันชื่อ ไท-รายวันฉบับบ่ายอีกหนึ่งฉบับดำเนินการโดยนายสมัยเรืองไกร บรรณาธิการที่จำต้องเข้ามารับหน้าที่ดำเนินงานสารเสรีให้ออกวางจำหน่ายตามปกติความเปลี่ยนแปลง ยกสตาฟฟ์ ครั้งนี้จอมพลสฤษดิได้รับทราบระหว่างที่ยังนอนพักรักษาตัวอยู่สหรัฐปรากฏว่าได้สร้างความขุ่นเคืองใจแกจอมพลสฤษดิไม่น้อยโดยถือว่าบุคคลกลุ่มนี้แข็งข้อ ขณะเดียวกันหนังสือพิมพ์ฉบับอื่นก็ได้พูดถึงเหตุยกสตาฟฟ้นี้กระทบถึง จอมพลสษดี้ผู้ยังมีอำนาจในมือเต็มเปียมนายสุรจิตต์ จันทรสาขาน้องชายต่างบิดาของจอมพลสฤษดิได้เข้ามาสวมหน้าที่บรรณาธิการในเวลาต่อมาและจากความเปลี่ยนแปลงในทางการเมืองชนิดยกกระบิคดีพิพาท กล่องไฟสตูดิโอ ระหว่างช่างภาพ สมนึก วงษ์กระจ่างกับกลุ่มอันธพาลก็ดำเนินต่อเนื่องไปจนถึงขั้นตัดสินว่านายเกชาเปลี่ยนวิถี กับพวกมีความผิดส่วนคดีหมิ่นประมาทและคดีเกี่ยวกับการเลือกตั้งโดยพรรคประชาธิปัตย์เป็นโจทก์ก็ยุติลงไปด้วยอาการปวยของจอมพลสฤษดิ้เริ่มดีขึ้นเรื่อยจากการรักษาและดูแลจากแพทย์และพยาบาลที่นั่นจนกระทั่งถึงวันเดินทางกลับ นายทหารที่ติดตามไปด้วยต่างรับนโยบายจากจอมพลสฤษดี้พร้อมทั้งมีการลังให้ทหารทุกหน่วยอยู่ในที่ตั้งพร้อมที่จะปฏิบัติการได้อย่างฉับพลันทันทีและแล้ว พลเอกถนอม กิตติขจรนายกรัฐมนตรีก็ลาออกในวันที ๒๐ ตุลาคม ๒๕๐๑อันเป็นวันเดียวกับการเดินทางมาถึงของจอมพลสฤษด ธนะรัชต์ผู้กล้บมาระบายความแค้นกับหนังสือพิมพ์หลายฉบับ กล่องไฟถ่ายรูปสินค้า
ทั้งนี้ทั้งนั้นยังคงอยู่ในสายตาของทุกคนเมื่อมีชายคนหนึ่งบอกว่าถ้าจะถ่ายภาพให้ได้ภาพสวยๆต้องใช้กล่องไฟสตูดิโอเท่านั้น

เช่นเดียวกับนายกรัฐมนตรีควบเอากระทรวงกลาโหมด้วยเช่นเดียวกันสำหรับกระทรวงการต่างประเทศซึ่งจอมพลสฤษดิ้ถือว่ามีความสำคัญนันคงได้แก่ พลตรีพระเจ้าวรวงศ์เธอกรมหมื่นนราธิปพงคัประพันธ์ ควบรองนายกรัฐมนตรีด้วย รัฐบาลชุดนี้เป็นชุดที่ ๒KTกว่ารัฐบาลใหม่จะจับงานก็ต้องใช้เวลาไม่น้อยเหมือนกัน กล่องไฟถ่ายภาพ แม้ว่าจะมีบุคคลที่เคยนั่งเก้าอี้รัฐมนตรีมาแล้วบ้างก็ตามเพราะนโยบายย่อมจะเปลี่ยนไป ทั้งนี้ทั้งนั้นยังคงอยู่ในสายตาของจอมพลสฤษดึ๋ซึ่งเริ่มสงสัยแล้วว่าคนที่เคยเป็นครูบาอาจารย์จะมีความประนีประนอมอย่างพลเอกถนอมจะสามารถนำรัฐนาวาให้แล่นไปให้เกิดประโยชน์อย่างที่จอมพลสฤษดึ๋คิดถึงความน่าจะเป็นฐานะของรัฐบาลใหม่ได้รับการรับรองจากต่างประเทศด้วยดีนำมาซึ่งความพอใจของจอมพลสฤษดิ้คงแต่การบริหารงานในประเทศเท่านั้น กล่องไฟถ่ายรูป ที่ดูเหมือนว่าจะไม่ได้อย่างใจเสียทีเดียวแถมยังมีกลุ่มอันธพาลที่สงบลงไปแล้วกลับมีเรี่ยวแรงทำให้ประชาชนเดือดร้อนปัญหาเศรษฐกิจก็ไม่กระดิกกระเดี้ยให้ดืฃึ้นมาได้เฉพาะอย่างยิ่งในล่วนความสัมพันธ์อันดีระหว่างไทยกับสหรัฐอเมริกานั้นถูกโจมตีจากหนังสือพิมพ์หลายฉบับ อาทิพิมพ์ไทย-เดลิเมส์-บางกอกเดลิเมล์-ตามมาด้วยสารเสรี ซึ่งมีนายทนงศรัทธาทิพย์ เป็นบรรณาธิการมีการแสดงความเห็นในบทนำไม่เห็นด้วยกับการเข้าร่วมเป็นสมาชิกองค์การชีอาโต้ที่มีนายพจน์ สารสินอดีตนายกรัฐมนตรีนั่งเป็นเลขาธิการหรือแม้แต่การร่วมมือกับสหรัฐ กล่องถ่ายภาพ โดยถือว่าสหรัฐยึดเอาประโยชน์ล่วนตนที่จะแสดงอำนาจปกคลุมไปทั่วหนังสือพิมพ์สารเสรีนั้นผมเคยบอกแล้วว่าเป็นหนังสือโดยทุนของจอมพลสฤษดึ๋ผู้มอบหมายให้พลตรีเนตรเขมะโยธิน (ยศขณะนั้น)เป็นผู้อำนวยการ ฉะนั้น จอมพลสฤษดิ้จึงหงุดหงิดแต่ยังคิดอะไรไม่ได้ทั้งนี้เป็นเพราะสุขภาพทรุดโทรมต้องเดินทางไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลวอลเตอรํรีด อันเป็นโรงพยาบาลสังกัดกองทัพสหรัฐในตอนต้นเดือนพฤษภาคม ๒๕๐oที่นั่น...จอมพลสฤษดิ้ได้รับการเยี่ยมเยียนจากประธานาธิบดีไอเชนฮาว รวมไปถึงนายนีล แม็กเอนรอย รมต.กลาโหมและนายพ่อสเตอร์ดัลเลส รัฐมนตรีว่าการต่างประเทศซึ่งดูแลและมอบหมายนายแพทย์ผีมือดี คือนายแพทย์เลียวนาร์ด เทตันนายแพทย์ใหญ่ของโรงพยาบาลนั้นเข้ามารับผิดชอบเพื่อพิจารณา กล่องถ่ายรูป อาการปวยที่อาจจะต้องมีการผ่าตัดม้ามต่อความเอาใจใส่เป็นอันดีนี้เองทำให้จอมพลลฤษดิ้เห็นว่า คนไทยไม่ควรเป็นศัตรูกับสหรัฐเฉพาะอย่างยิ่งหนังสือพิมพ์.สารเสรีของจอมพลสฤษดิ้เอง นายเนตร เขมะโยธินผู้อำนวยการสารเสรี ได้รับโทรเลขจากจอมพลสฤษดิ้เป็นรายละเอียดที่ชัดเจนถึงแนวทางของหนังสือพิมพ์สารเสรีคือให้เปลี่ยนแปลงนโยบายด้านการเสนอข่าวและบทความ เพราะสหรัฐอเมริกาต่อว่าอย่างมากในเรื่องการต่อต้านอเมริกาและโปรคอมมิวนิสต์หรือให้เปลี่ยนแปลงตัวบุคคลในกองบรรณาธิการทั้งนี้ เพื่อให้มีการเปลี่ยนแปลงตามนโยบาย กล่องไฟ light box ข้างต้นหรือให้หยุดออกคือเลิกกิจการไปเลยโทรเลขฉบับนี้จึงเหมือนคำขาดที่มีต่อกองบรรณาธิการโดยตรง ผู้อำนวยการได้เรียกประชุมและอ่านโทรเลขนั้นให้ทุกคนฟังแล้วสรุปว่า ยังไม่ต้องให้คำตอบวันนี้ แต่ขอคำตอบในวันพรุ่งนี้สีหน้าของผู้อำนวยการค่อนข้างเครียด เพราะปรารภไว้ก่อนให้ดูโทรเลขว่าผมคุมทหารทั้งกองทัพมาแล้วไม่เคยมีความหนักใจเลย แต่ยอมรับว่าผมคุมพวกคุณไม่กี่คนนี้ไม่ได้วันรุ่งขึ้นกองบรรณาธิการสารเสรีมากันพร้อมหน้า นายทนงบรรณาธิการในฐานะหัวหน้าทีมหรือสตาฟพ์ได้กล่าวในที่ประชุมว่าผมขอเสนอทางออกให้ผู้อำนวยการเองครับสำหรับข้อหนึ่งนั้นผมทำไม่ได้แน่ วันหนึ่งพูดอย่างมาอีกวันจะให้ผมพูดไปอีกอย่าง ผมไม่รู้ว่าจะอยู่ผู้หน้าคนอ่านและคนในวงการหนังสือพิมพ์เขายังไง เพื่อให้หนังสือพิมพ์สารเสรียืนอยู่ต่อไป กล่องไฟถ่ายภาพสินค้า

วันพฤหัสบดีที่ 25 สิงหาคม พ.ศ. 2559

ตอนเที่ยงคืนเมื่อคืนนี้ว่าท่านไปทางชลบุรีและเมื่อเช้านีได้ทราบว่าท่านอยู่ที่ตราดแล้วและที่ท่านไปจังหวัดตราดนั้นท่านจะไปดูกล่องไฟถ่ายรูป

ตอนเที่ยงคืนเมื่อคืนนี้ว่าท่านไปทางชลบุรีและเมื่อเช้านีได้ทราบว่าท่านอยู่ที่ตราดแล้ว กำลังจะเช้าเขมรผมอยากพบท่านเพื่อขออภัย น่าเสียดายที่เราต้องเสียคนดีของชาติไปคำตอบนี้แสดงชัดเจนว่าจอมพลสฤษดิไม่ติดตามอย่างที่มีการคาดหมายกันโดยถือว่าได้จัดการทุกอย่างได้เรียบร้อยและไม่คิดว่าจะมีหนทางกลับมา เอาคืน ได้อีกเพราะแผนการทุกอย่างบรรลุผล กล่องถ่ายรูป จะเห็นว่าข้อเสนอของกลุ่มไฮด้ปาร์กนั้นสอดคล้องกับแผนที่วางเอาไว้ ข้อเสนอของไฮด์ปาร์กอยู่ข้างจะรุนแรงก็จริงแต่เมื่อดำเนินการได้เรียบร้อยแล้วก็ไม่จำเป็นจะต้องจัดการให้ถึงขั้นนั้นในส่วนการดำเนินการขั้นต่อไปถึงที่มาของรัฐบาลใหม่ จอมพล สฤษดิ้ตอบคำถามนี้ว่าจะดำเนินการให้เร็วที่สุดเท่าที่จะเร็วได้ ผมไม่ค่อยมีความรู้ คงต้องปรึกษากับนักกฎหมายภาระในขณะนี้ที่สำคัญก็คือรักษาความสงบภายในประเทศให้จิตใจของคนรู้สึกเป็นปกติและให้ต่างประเทศยอมรับและเชื่อถือก่อนเท่านั้นด้วยเหตุนี้ในวันต่อมาได้มีประกาศของคณะทหารในเวลา ๒๐.๐๐น. กล่องไฟถ่ายภาพ ให้ยุบสภาผู้แทนราษฎรและ ส.ส.ประเภทสองโดยกำหนดจะให้มีการเลือกตั้งทั่วไปใน ๙๐ วัน รวมทั่งจะขอพระราชทานส.ส.ประเภทสองจำนวนไม่เกิน ๑๒๓ ท่านหรือตามแต่จะทรงเห็นสมควรโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม และระหว่างที่รอโปรดเกล้าฯ ก็ให้ส.ล.ประเภทสองทำหน้าที่ทางสภาไปพลางก่อนทุกอย่างต้องจัดอย่างเร่งด่วนจึงทำให้มีพระบรมราชโองการแต่งตั้ง ส.ส.ประเภทสอง จำนวน ๑๒๑คน ในวันที่ ๒๐ กันยายนในวันเดียวกันนั้นจอมพลสฤษดึ๋ได้ต้อนรับเอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกา ไม่มีรายละเอียดออกมาแต่สันนิษฐานกันว่าเมื่อตั้งรัฐบาลใหม่แล้วขอให้มีการรับรองส.ส.ประเภทสองเปิดประชุมเป็นการเร่งด่วนเพื่อซาวเสียงบุคคลที่จะดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีแล้วน่าขึ้นทูลเกล้าฯ ที่ประชุมวันนั้นมีส.ส. กล่องถ่ายภาพ มาแสดงตัวครบถ้วนส่วนใหญ่เป็นนายทหารทั้งบก เรือ อากาศ และข้าราชการพลเรือนในระดับสูงมีการปฏิญาณตนเรียบร้อยแล้วจึงซาวเสียงมีผู้เสนอนายวรการบัญชา แต่เจ้าตัวปฏิเสธจากนั้นมีการเสนอชื่อนายพจน์ สารสินผู้ซึ่งพ้นหน้าที่จากเอกอัครราชทูตไทยประจำสหรัฐแล้วมาดำรงตำแหน่งเป็นเลขาธิการองค์การสนธิสัญญาซีนาโต้ ซึ่งมีสำนักงานใหญ่ที่กรุงเทพฯ มีการโหวตคะแนนได้ผู้สนับสนุน ๗๔เสียง คณะทหารเห็นชอบด้วยจึงติดต่อ กล่องไฟสตูดิโอ กับนายพจน์ชึ่งดูเหมือนมีเงื่อนไขว่าหลังการเลือกตั้งและจัดตั้งรัฐบาลใหม่แล้วนายพจน์ขอลาออกเพื่อจะกลับมานั่งในตำแหน่งเลขาธิการซีอาโต้ต่อไปการเลือกตั้ง ส.ส.ทั่วไปจึงถูกดำเนินการตามกำหนดระยะเวลาและถือว่าเป็นการเลือกตั้งที่ไม่มีเสียงครหาใดๆอย่างน้อยที่สุดจอมพลสฤษดี้ก็ได้ดำเนินการให้เป็นไปตามที่ได้ลั่นวาจาเอาไว้โดยกำหนดวันเลือกตั้งในวันที่ ๑๕ ธันวาคม ๒๔๐๐เป็นการเลือกตั้งในระบบรวมเขตจังหวัด ได้ส.ส. มาทั้งหมด ๑๖๐ คน ส่วนใหญ่จะเป็น ส.ส.หน้าเก่า มีหน้าใหม่เข้ามาบ้างก็ส่วนน้อย มีผู้มาใช้สิทธิ้คิดเป็นร้อยละ๔๐.๑๐หลังการเลือกตั้งได้หกวันได้มีการจดทะเบียนพรรคใหม่หนึ่งพรรคคือ กล่องไฟ light box พรรคชาติสังคมมีจอมพลสฤษดี้เป็นหัวหน้าพรรค และพลโทประภาสจารุเสถียร เป็นเลขาธิการพรรคพรรคใหม่มีสมาชิกพรรคที่เป็น ส.ส. ถึง๔๐ คน เรียกว่าไม่เลวนักสำหรับฝ่ายค้านนั้นมีจำนวน ส.ส.ไม่มากพอที่จะดำเนินการทางการเมืองชนิดถึงขั้นแตกหักจากนั้นจึงมีการชาวเสียงหาคนที่จะมาเป็นนายกรัฐมนตรี ผลปรากฏว่าผู้ได้รับเลือกคือ พลโทถนอม กิตติขจรซึ่งเป็นบุคคลหนึ่งในคณะทหาร (ยศในช่วงเวลานั้น)นับได้ว่าเป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ ๑๐ ของเมืองไทย เมื่อดำเนินการมาถึงช่วงนี้แล้ว นายพจน์สารสิน ก็ฃอลาออกจากเก้าอี้ที่นั่งอยู่ ๙๖ วันครั้นแล้วนายกรัฐมนตรีก็ได้เลื่อนยศขึ้นมาเป็นพลเอก ถือว่าเป็นการเริ่มศักราชใหม่ ๒๔๐๑ที่งดงามทีเดียวส่วนรายชื่อคณะรัฐมนตรีนั้นผมขอเล่าถึงเฉพาะในส่วนที่สำคัญเช่น พลโทประภาส จารุเสถียร นั่งเก้าอี้ มท. ๑ควบเก้าอี้รองนายกฯ ด้วย กล่องไฟถ่ายรูปสินค้า