วันอังคารที่ 5 กรกฎาคม พ.ศ. 2559


เราทำกันอย่างถูกวิถีทางแล้วขออย่างเดียวอย่าประกอบกล่องไฟสตูดิโอผิด

เราทำกันอย่างถูกวิถีทางแล้วขออย่างเดียวอย่ารังแกกันเท่านั้น ถ้าผมตกอยู่ในฐานะเช่นคุณเผ่าผมลาออกไปนานแล้วไปอยู่สวิตเชอร์แลนด์ดีกว่าคำทิ้งท้ายของจอมพลสฤษดิดูจะมีนัยบ้างหากทว่าไม่มีใคร
เฉลียวใจระหว่างที่จอมพลสฤษดประชุมทางกองทัพอากาศโดยแม่ทัพฟ้าได้เรียกประชุมนายทหารระดับสูงและนายทหารอากาศ๕ นายที่เป็น ส.ส.ประเภทสองเข้าร่วมประชุมด้วยแม่ทัพฟ้าแจ้งต่อที่ประชุมว่าได้ลาออกจากตำแหน่งผู้บัญชาการทหารอากาศแล้วรวมทั้งลา กล่องไฟถ่ายภาพ ออกจากรัฐมนตรีว่าการสาธารณสุขด้วยยังเหลืออยู่ก็แต่ความเป็นสมาชิกพรรคเสรีมนังคดีลาเท่านั้นมาถึงตรงนี้ผมขออนุญาตนำบันทึกเหตุการณ์ที่เป็นแรงกระตุ้นให้ฝ่ายจอมพลสฤษดีออกโรงอย่างเต็มตัวเพราะในวันรุ่งขึ้นนั้นเองกลุ่มไฮด์ปาร์กที่สนามหลวงก็ชุมนุมผู้คนจำนวนไม่น้อยโจมตีรัฐบาล จอมพล ป.กับบทบาทของ พล.ต.อ.เผ่าอย่างรุนแรงไม่หวั่นอิทธิพลของตำรวจยุคอัศวิน ผู้ประกาศอุดมการณ์ว่าภายใต้ดวงอาทิตย์นี้ ไม่มีสิ่งใดที่ตำรวจไทยทำไม่ได้ภายหลังที่มีการอภิปรายกันอย่างเผ็ดร้อนแล้วมีเสียงโห่ให้ปลดจอมพล ป. และจับนายพลเผ่า จอมอัศวินประชาชนที่มาชุมนุมกันวันนั้นว่ากันว่านับหมื่นทีเดียวจากนั้นจึงได้ทำข้อเสนอขึ้นเพื่อไปมอบให้จอมพลสฤษดิ้ คือให้จอมพล ป. พร้อมคณะรัฐมนตรีลาออกภายในวันที่๒๐ กันยายน ๒๕๐๐ กล่องไฟสตูดิโอ ราคา ให้ พล.ต.อ.เผ่า ศรียานนท์ออกจากราชการทุกตำแหน่งภายในวันที่ ๑o กันยายน ๒๕oo ให้จอมพลสฤษดีเป็นผู้บัญชาการทหารสูงสุดและเป็นผู้พิจารณาตั้งรัฐบาลใหม่ภายในวันที่ ๒๔ กันยายน๒๕๐๐ โดยจอมพลสฤษดิ้เป็นนายกรัฐมนตรีข้อเสนอสุดท้าย คือให้เนรเทศพล.ต.อ.เผ่าออกไปนอกประเทศในวันที่ ๒๐ กันยายนนี้กลุ่มไฮด์ปาร์กกลุ่มนี้นำโดยนายกิตติศักดี้ศรีอำไพ นายอัมพรอำพันพงษ์ พร้อมด้วยพรรคพวกอีกส่านหนึ่งจัดแจงออกนำขบวนไปยังสี่เสาเทเวศร์ซึ่งเป็นที่พักของจอมพลสฤษดิ้เพื่อนำข้อเสนอนียื่นต่อจอมพลสฤษดิแต่ไม่มีใครออกมารับกลุ่มไฮด์ปาร์กที่เดินขบวนกันมาอย่างแน่นขนัดนายกิตติศักดิไจึงมอบข้อเสนอที่จัดทำมาให้ไว้กับทหารรักษาการณ์จากสี่เสาฯแทนที่ขบวนไฮด์ปาร์กจะสลายตัวเพราะได้ยื่นข้อเสนอแล้ว กล่องถ่ายรูป ราคา หัวขบวนชวนกันเดินไปยังทำเนียบรัฐบาลแต่ประตูทำเนียบปิดอย่างแน่นหนาพร้อมด้วยตำรวจรักษาการณ์ทั้งหมดต่างส่งเสียง จอมพลป. ออกไป นายเผ่าออกไปดูเหมือนว่าจะมีใครคนหนึ่งปีนขึ้นไปยืนบนตู้ยามตำรวจหน้าทำเนียบแล้วตะโกนให้ จอมพล ป.ออกไป จับนายเผ่ามาแขวนคอระหว่างนี้เองมีเสียงตะโกนบอกกันว่าจอมพลสฤษดิ้ได้กลับเข้ามาที่บ้านสี่เสาฯ แล้วกลุ่มประชาชนที่ชุมนุมกันต่างเฮโลย้อนกลับไปขอพบจอมพลสฤษดึ๋ซึ่ง กล่องไฟถ่ายภาพ ราคา ได้ออกมาพบกับผู้ชุมนุมข้าพเจ้าได้รับทราบข้อเสนอทั้งหมดของพี่น้องประชาชนแล้วข้าพเจ้าในนามของผู้บัญชาการทหารบก และส.ส.ประเภทสองขอปฏิบัติตามมติมหาซน เพื่อผลประโยชน์ของประชาชนพวกท่านมาพบข้าพเจ้าอาจเป็นประโยชน์แก่ข้าพเจ้าเป็นส่วนตัวทางที่ดีพวกท่านทั้งหลายควรไปพบกับฝ่ายรัฐบาลเพื่อจะได้ปฏิบัติงานสอดคล้องกับความต้องการของท่านส่วนข้าพเจ้าขอยืนยันว่าจะเสียสละทุกอย่างเพื่อประชาชนมีเสียงโห่ร้องแสดงความยินดีของกลุ่มผู้คนที่เนืองแน่นหน้าบ้านพักการเคลื่อนไหวเหล่านี้ย่อมหนีไม่พ้นการรับรู้ของพล.ต.อ.เผ่าซึ่งได้ระดมบรรดานายตำรวจที่ใกล้ชิดมาหารือกันหลังการตรวจสอบข้อผูลแล้วได้ กล่องไฟถ่ายภาพสินค้า

ข้าราชการระดับสูงในคณะรัฐประหารพวกเขายังใช้กล่องไฟถ่ายภาพกันเลย

อากาศอีกเหล่าละ ๙ นายสมทบด้วยข้าราชการระดับสูงในคณะรัฐประหารอีกลองคนการลาออกนี้คือพ้นจากการเป็นสมาชิกพรรคเสรีมนังคศิลาด้วยหนังสือลาออกที่จาระไนบุคคลทั้งหมดนี้พลเอกกฤษณ์ สืวะราเป็นผู้นำใบลามายื่นต่อ พล.ต.ต.พิชัย กุลละวนิชย์ผู้ช่วย อ.ตร. ในฐานะผู้ช่วยเลขาธิการพรรคเสรีมนังคศิลา โดยยื่น ณที่ทำการพรรคผมคงไม่จำเป็นต้องจาระไนว่า ๔๖คนนี้มีใครบ้าง ถ้าจะเอ่ยก็คงเอ่ยแค่จอมพลสฤษดิ้, พล.อ.ท.เฉลิมเกียรติ วัฒนางกูร กล่องไฟถ่ายรูป พลเอกถนอมกิตติขจร พล.อ.ต.บุญชู จันทรุเบกษา เท่านั้นเพราะชื่อดังกล่าวนี้คุมกำลังทหารไว้ในมือครบถ้วนแม้แต่ทัพเรือพล.ร.อ.หลวงชำนาญอรรถยุทธก็ลงเรือมาสมทบด้วยถึงตรงนี้ จอมพล ป. และพล.ต.อ.เผ่าก็รู้แล้วว่าอะไรจะเกิดขึ้นหมากกระดานนี้จะเข้าตาลับหรือไม่คงยากที่จะเดาได้ นี่คือเหตุการณในวันที่ ๑๐ กันยายน ๒๕๐๐แต่การที่จะนั่งคิดกันอยู่ตามตามลำพังคงจะไม่ช่วยให้การตัดสินใจเดินหมากตัวไหนได้ดี ฉะนั้น จอมพล ป.จอมพลพีนจอมพลเรือหลวงยุทธศาสตร์โกศล พ.อ.นายวรการบัญชาและที่ขาดไม่ได้คือ พล.ต.อ.เผ่าศรียานนท์ มาร่วมพบปะกันในตอนเย็นของวันรุ่งขึ้น(๑๑ กันยายน)การพบกันครั้งนี้ถือได้ว่ามืความสำคัญทีเดียวความเคลื่อนไหวที่ว่านี้มีหรือที่ฝ่ายจอมพลสฤษดีจะโม่ล่วงรู้แม้ว่าจะไม่มีรายละเอียดก็น่าจะเข้าทำนอง ไก่เห็นตีนงู กล่องไฟสตูดิโอ เพราะข่าวในหน้าหนังสือพิมพ์เองก็ไม่มีรายละเอียดแต่อย่างใดเรียกว่าข่าวการพบปะครั้งนี้เป็นความลับในเนื้อหาข่าวนักข่าวไปดักพบนายวรการบัญชาเพื่อด้นหารายละเอียด คำตอบที่ได้ก็คือ เป็นการหารือที่จะมืการปรับคณะรัฐมนตรีประเด็นที่ให้ลัมภาษณ์เพียงเท่านี้ทำให้เกิดการไหวตัวในวันต่อมา คือส.ส.ลูกพรรคเสรีมนังคศิลาประมาณ ๑๐ คนจะลาออกจากพรรคขณะเดียวกันคนที่เป็นรัฐมนตรีบางคนก็วิ่งหาข่าวเพื่อที่จะเว่าเก้าอี้ที่นั่งอยู่นั้นจะถูกสับปรับไปอย่างอื่นหรือไม่ไม่แต่ข่าวการปรับคณะรัฐมนตรีเท่านั้นข่าวยังกระฉ่อนอีกกระแสหนึ่งว่า จอมพล ป.จะลาออกพร้อมมีคำลังถึงลูกพรรคด้วยว่าจากนี้ไปขอให้ทุกคนอย่าออกต่างจังหวัดเพื่อการเรียกพบหรือการประชุมจะกระทำได้โดยง่ายใช่แต่เท่านั้น พรรคฝ่ายค้านคือประชาธิปัตย์โดยนายควง อภัยวงคํหัวหน้า กล่องไฟ light box
พรรคได้มีการประชุมนัยว่าเตรียมการที่จะเป็นรัฐบาลถ้าจอมพลป. ลาออกจริงจะเห็นว่าบรรยากาศการเมืองรุ่มร้อนทีเดียวกับ พล.ต.อ.เผ่า รัฐมนตรีว่าการมหาดไทยเจอะเจอนักข่าวซึ่งหยิบประเด็นการลาออกมาถามก็ได้รับการปฏิเสธนักข่าวจึงย้อนกลับมาที่พล.ต.อ.เผ่าที่มีข่าวว่าจะลาออกจากเก้าอี้รัฐมนตรีคำตอบที่ได้รับก็คือไม่จริงเรื่องนี้อยู่ที่ท่านหัวหน้าเพียงคนเดียวจะบอกให้ว่าอั๊วน่ะเมียน้อย  ส.ส.ประเภท ๒ เขาไม่ได้หรอกเพราะนั่นน่ะ(ลูก)เมียหลวงอั๊วไม่รู้อะไรทั้งนั้นเรื่องใครจะลาออกก็ต้องยื่นตรงถึงท่านนายกฯสมัยนั้นข่าวทางทีวียังไม่ก้าวหน้าถึงเอาตลับเทปยัดใส่กล้องถ่ายไปอัดเสียงพูดไปด้วยการพูดถึงเมียน้อยเมียหลวงคงไม่แคล้วการดูดเสียงออก ฉะนั้น ข่าวจึงไม่มีการระบุเมียน้อยเมียหลวงยกเว้นหนังสือพิมพ์เท่านั้นมีความเป็นไปได้ที่ความขัดแย้งกำลังส่อถึงความรุนแรง แม้ว่าจอมพล ป.จะให้ลัมภาษณ์ว่าได้โทรศัพท์คุยกับจอมพลสฤษดีแล้ว แต่ studio light box เป็นความลับพูดไม่ได้เป็นคำตอบที่ตัดบทการซักถามต่อการลาออกของ ล.ส.ประเภท ๒ จำนวนนายนั้น ได้มีการพบปะหารือกันที่กองบัญชาการมณฑลทหารบกที่ ๑ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากวังปารุสกวัน คนที่มานั่งเป็นประธานในวันนั้น คือจอมพลสฤษดึ๋ชงเดินทางมาจากบ้านพ์กแหลมแท่นและมีการทำรายงานการประชุมด้วย โดยพลโทประภาส จารุเสถียรทำหน้าที่เลขานุการของที่ประชุมมีคนสำคัญอีกคนหนึ่งที่เพิ่งจะเข้ามาร่วมด้วยคือพลจัตวาชาติชายชุณหะวัณ ผู้บังคับการโรงเรืยนยานเกราะมีการหารือกันอย่างกว้างขวางพล.จ.ชาติชายเป็นคนเสนอให้มีการรอมชอมกันแต่แล้วก็ออกเป็นมติที่ประชุมให้ทำหนังสือด่วน ถึงจอมพลป.ให้ลาออกพร้อมทั้งคณะแล้วให้สภาผู้แทนราษฎรเสนอจัดตั้งนายกรัฐมนตรีใหม่ตามวิถีทางรัฐธรรมนุญประเด็นสำคัญอีกประเด็นคือให้พล.ต.อ.เผ่าพ้นจากตำแหน่งอธิบดีกรมตำรวจด้วยมติที่ประชุมไม่ปกปิดมีการให้ลัมภาษณ์ในประเด็นสำคัญโดยบอกด้วยว่าเป็นมติเอกฉันท์ของที่ประชุมแถมจอมพลสฤษดิ้ยังทิ้งท้ายว่า
กล่องไฟถ่ายภาพสินค้า

การลาออกและเป็นข่าวในหน้าหนังสือพิมพ์นั้นไม่เด่นเท่าเรื่องการประกอบกล่องไฟสตูดิโอและการถ่ายภาพอย่างละเอียด

การลาออกและเป็นข่าวในหน้าหนังสือพิมพ์นั้น คนที่น่าจะนั่งนอนไม่เป็นสุขก็คือนายกรัฐมนตรี เพราะคงอ่านใจคนคุมกำลังสำคัญคือจอมพลถ้าพูดประสาชาวบ้านก็ต้องว่า จะมาไม้ไหนเมื่อการเมืองฝ่ายรัฐบาลกำลังเจอคลื่น น่าจะเป็นคลื่นที่หนักกว่าที่พวกเราไปเจอมาแน่ๆ ฝ่ายการเมืองนอกสภาคือกลุ่มไฮด์ปาร์ก อ่านเกมการเมืองมาตลอดย่อมอ่านได้ว่า กระแสกำลังเบี่ยงเบนไปแบบไหนสนามหลวงจึงเริ่มระงมด้วยเสียง รัฐบาลลาออก รัฐบาลลาออกไป กล่องไฟถ่ายภาพ ทางซักฝ่ายค้านเองก็ใช้การยื่นเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจคณะรัฐบาลกระแสที่รวนเรน่าจะเป็นผลให้รัฐบาลนี้อยู่ไม่ได้ เรียกว่าเจอทั้งทางตรงจากจอมพลลฤษดิ้ ทางอ้อมไอด์ปาร์ก และกินรวบเลยก็คือฝ่ายค้านรัฐบาล จอมพล ป. พิบูลสงคราม นั้นเริ่มก้าวขึ้นนั่งเก้าอี้นายกมาตั้งแต่ต้นปี ๒๔๙๑ ต่อเนื่องเรื่อยมาจนถึงชุดที่๒๖ หลังการเลือกตั้งสกปรก ตั้งแต่ ๒๑ มีนาคม ๒๕๐๐ เป็นต้นมา มีความสามารถผ่านร้อน ผ่านหนาว ฝ่าคลื่นปีนลมมาอย่างชนิดที่หาตัวจับได้ยากทั้งด้วยมาดและท่วงท่าสุขุมลุ่มลึก ไม่ว่าใครก็ต้องอ่านได้ว่า คลื่นที่ทยอยเป็นระลอกหนนี้คงจะทำให้รัฐนาวา พิบูลสงคราม ล่มแน่ๆ แต่ขึ้นชื่อว่าชาติเสือหนีไม่พ้นจะต้องไว้ลาย ผมรวบรวมวิธีการของบุรุษผู้เจนเกมการเมืองมาเล่าไว้ให้เห็นว่า ปีมือของท่านนั้นรอบตัวทีเดียวประการแรก การเปิดอภิปรายทั่วไปไม่ไว้วางใจรัฐบาลต้องแก้ไขก่อนโดยใช้วิธีจัดการกับ ส.ส.ฝ่ายค้านบางคนที่ ซื้อได้ด้วยกระสุนดินดำ ถอน กล่องไฟสตูดิโอ ฉากขาวชื่อออกจากการลงชื่อในการขอเปิดอภิปรายก่อนที่จะมีการยื่นต่อสภาผู้แทนราษฎร บางคนขอลาออกจากพรรคแล้วไปสมัครเข้าพรรคเสรีมนังคศิลา นับดูจำนวนยังกํ้ากึ่งจึงจัดการเร่งด่วนให้ฝ่ายค้านคนไปเยือนสหรัฐอเมริกาภายในช่วงเวลาของการอภิปรายในสภา ทั้งสี่คนจะหรือเปล่าว่าเป็นกลเม็ดที่มาจากรัฐบาล ไม่มีใครตอบได้คนทั้งคือ นายใหญ่ ศวิตชาติ นายบุญเท่ง ทองสวัสดิ์ นายญวง เอี่ยมศิลา และนายบุญคุ้ม จันทรศรีสุริยวงค้ โดยจะไปเข้าร่วมประชุมเอ็มอาร์เอขณะเดียวกัน รัฐบาลถือโอกาสแต่งตั้ง ส.ส. ประเภท ๒ เพิ่มอีก๑๓ คนเพื่อให้จำนวน ส.ส. ประเภท ๒ มีจำนวนมากพอผสมกับ ส.ส.พรรคเสรีมนังฯ ที่จะยกมือไว้วางใจรัฐบาลประกอบกับเสียงของฝ่ายค้านมีอันเป็นโยกย้ายถอนชื่อรวมทั้งเดินทางไปสหรัฐอเมริกา ฝ่ายค้านเดินอีกแต้มคือขอให้มีการถ่ายทอดเสียงวิทยุในการอภิปรายซึ่งทำไม่สำเร็จ มาถึงตรงนี้ จอมพล ป. ค่อยสบายอกสบายใจขึ้นผลที่ตามมาในการประชุมเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลจึงดำเนินไปอย่างที่เรียกว่าไม่เป็นผลอย่างที่ฝ่ายค้านต้องการ เพราะเมื่อจบการอภิปรายแล้ว สภาไม่สามารถลงมติได้ กล่องไฟ light box ถือว่าการแก้เกมการเมืองของจอมพล ป. ล้มถูทธิพล ใครคิดจะเอาเป็นตัวอย่างบ้างก็ได้ความรวนเร บรรยากาศทางการเมืองและอำนาจที่ถูกแยกแตกออกเป็นเสี่ยงตามที่เป็นข่าว และผมเก็บเอามาฝากไว้ให้รับรู้นี้ ที่มาของมันคือ การเลือกตั้งที่ใช้อำนาจรัฐเข้ามาดำเนินการอย่างทระนง ความแตกแยกในคณะรัฐบาล มีการโยกย้ายพรรคได้ด้วยการใช้เงินและมีผลทันทีลองเปรียบกันดูก็แล้วก้นปิดฉากผู้ครอง อำนาจ ทางการเมืองคงยังมีผู้คนอีกจำนวนไม่น้อยที่ได้รับรู้และประสบกับเหตุการณ์สำคัญในปีกึ่งพุทธกาล ที่มีการเลือกตั้งทั่วไปอันเป็นเหตุสำคัญในทางการเมือง เกิดเป็นเรื่องถึงฃั้นมืการชุมนุมระหว่างประชาชนกับนิสิตนักศึกษาจากหลายมหาวิทยาลัยพร้อมใจกันเดินขบวนเรียกร้องให้มีการรื้อเลือกตั้งเสียใหม่แต่รัฐบาลยุคนั้นมีความเชื่อว่า อำนาจที่มีอยู่พร้อมทั่งเสียงสนับสนุนในสภาอันถือว่าเป็นประชาธิปไตยตามครรลองแห่งรัฐธรรมนุญ จึงเฉยเมยและดำเนินการจัดตั้งรัฐบาลท่ามกลางเสียงวิพากษ็วิจารณ์ที่ยังเป็นควันความลอยอยู่ทั่วไปความขัดแย้งตามมาอีก ระหว่างผู้กุมอำนาจและคุมกำลังจนทำให้เกิดการมองว่า จอมพล ป. พิบูลสงคราม นั่งเก้าอี้อยู่ระหว่างเขาควายที่ light box mini อาจจะมีการปะทะกัน แล้วคนตรงกลางจะบาดเจ็บแต่คนนั่งตรงกลางบนเก้าอี้นายกรัฐมนตรี กลับมองว่าในเกมหรือเรียกว่าหมากการเมืองแล้ว ยังถือว่ามีความชำนาญกว่า เพราะผ่านมาไม่น้อยกว่าแปดปีแล้ว การมองหมากวางเรือ วางม้าสกัดกั้นอีกฝ่ายหนึ่งน่าจะเอาชนะได้บนกระดานหมากการเมืองเมื่อจอมพลสฤษดิ้ลาออกจากเก้าอี้รัฐมนตรีพร้อมกับนายทหารคู่ใจอีกหลายนายก็มีปฏิกิริยาเดินตามรอย ฝ่ายค้านออกมาวางหมากอีกตัวหนึ่งพร้อมประจวบนักไฮด์ปาร์กออกมาขับไล่ หมากหลายตัวบนกระดานที่ยังไม่จบ จอมพล ป. ก็สามารถเดินหมากทับซ้อนจนถือว่าขณะนี้รูปหมากมีความเหนือกว่าเพราะแก้ไขได้เป็นเปลาะๆแล้วจอมพลสฤษดิ้ผู้วางหมากให้ผู้ร่วมการลาออกด้วยหลบออกจากกรุงเทพฯ ไปนอนฟังเสียงคลื่นให้เป็นที่ครึกครื้นหัวใจเสียที่บ้านพักบางแสนหรือแหลมแท่นไม่มีใครรู้ได้ว่าจอมพลสโเษดี้คิดวางหมากที่ถือว่าเป็นตาสำคัญอย่างไร เนื่องเพราะที่บ้านพักนั้นการจะไปพบหรือการเข้า-ออกเต็มไปด้วยการกวดขันระแวดระวังเต็มที่ studio light box โดยมีนายสงวน คันทรสาขา ส.ส.นครพนมผู้เป็นญาติสนิทสังกัดพรรคสหภูมิในตำแหน่งเลขาธิการ เป็นคนคอยดูแลใกล้ชิดขณะเดียวกันก็ไม่มีการแพร่งพรายออกมาว่า ฝ่ายที่คุมกำลังตำรวจคือ พล.ต.อ.เผ่า ศรียานนท์ ที่ยังใกล้ชิดจอมพล ป. พิภูลสงคราม กำลังร่วมคิดกันที่จะวางหมากทางการเมืองให้บรรลเป้าหมายเฉพาะอย่างยิง การวางแผนของจอมพลสฤษดินันเต็มไปด้วยนายทหารที่ล้วนจะเสนอแนวทางที่จะไปสู่เป้าหมายเหมือนกันแต่จะเกาะติดกับเสียงเรียกร้องของประชาชนที่ ขับไสไล่ส่งให้รัฐบาลออกไปและแล้ว ยังไม่ทันที่ฝ่ายจอมพล ป.จะเดินหมาก จอมพลสฤษดีตัดสินใจวางหมากอีกตัวหนึ่งคือการลาออกเช่นเดียวกัน หมายถึงว่าการลาออกครั้งนี้น่าจะมีผลสะเทือนถึงเก้าอี้นายกรัฐมนตรี และยังมีหมากตามมาอีกพร้อมที่จะเดินไปข้างหน้าการลาออกที่ว่านี้คือ จากตำแหน่ง ส.ส. ประเภทสองรวมทั้งหมดถึง ๕๖ คน เป็นนายพลแห่งกองทัพบก ๓๖ นาย นายพลเรือกับนายพล กล่องไฟถ่ายภาพสินค้า

แต่คนดูเห็นว่าเป็นการจัดรายการเอาใจคนชอบถ่ายภาพจึงเอากล่องไฟสตูดิโอออกโฆษณาและการประกอบให้ทุกคนใช้เป็น

ผู้เดียว ไม่ใช่บริการสาธารณะ ขืนเป็นอย่างนี้อีกหน่อยจะเหมือนสเปนที่สถานีโทรทัศน์ถูกผู้ชมควรบาตร แม้ว่าทั้งประเทศจะมีเครื่องรับแค่ ๒๐๐เครื่องเท่านั้น แต่คนดูเห็นว่าเป็นการจัดรายการเอาใจฟรังโก ประธานาธิบดี คนเดียวทางด้านคุณแก้ว อัจฉริยะกุล เจ้าของนามปากกา แก้วฟ้า ซึ่งเป็นเจ้าของเรื่องบอกว่าละครเรื่องนี้เคยเป็นละครเวทีมาก่อนแล้ว แต่ซื่อเรื่อง มารหัวใจ คนอะไรดูละครไม่จบเรื่องแล้วลั่งหยุดทั้งๆ ที่จุดสะเทือนใจอยู่ที่ตอนจบ ผมถูกคนดูต่อว่าเขียนเรื่องซุย ก็ไม่รู้จะอธิบายยังไง คงเลิกเกี่ยวข้องกับทีวีช่องนี้อีกแล้ว กล่องไฟถ่ายภาพ ที่จริงหม่อมขาบท่านเคยพูดหยอกล้อผม เคยเขกหัวผมเล่นบ่อยๆ ด้วยซ้ำ ผมก็เคารพท่าน พูดแล้วล่ายหน้าความทรงจำของผมไม่ละเอียดลออขนาดนี้หรอกครับ อาศัยข่าวในช่วงเวลานั้น และผมเห็นว่าเป็นประเด็นที่แสดงถึงอำนาจอำนาจที่คิดจะใช้ก็ใช้กันให้มันวุ่นวาย หรืออาจจะเอาอกเอาใจใครก็ได้เพราะช่วงเวลานั้น จะมีข่าวซุบซิบกันเกี่ยวกับ ผู้หญิง ของท่านจอมพลป. ว่ากันอย่างนั้น ม.ล.ขาบจึงได้เอาใจและพูดแบบเดาใจนักข่าวที่ถามในล่วนที่เกี่ยวกับการเมืองนั้นหลังจากฮือฮากันด้วยเรื่องละครแล้วไม่นานวันก็มีกระแสข่าวที่ทำให้นักข่าวการเมืองวิ่งกันพล่านและพุ่งเป้าไปที่ บ้านสี่เสา อันเป็นที่พักของจอมพลสฤษดิ้ ธนะรัซต์ และพบว่ามีนักการเมืองเดินทางเข้าออกอยู่ข้างจะพลุกพล่านสืบสาวราวเรื่องแล้วปรากฏว่าเป็นผลมาจากการให้สัมภาษณ์ของจอมพล ป. นายกรัฐมนตรี ว่าได้มีการพูดในที่ประชุมคณะรัฐมนตรีว่าให้เลือกเอา  กล่องไฟสตูดิโอ ฉากขาว ใครจะอยู่การค้าก็ลาออกจากรัฐมนตรี ใครจะเป็นรัฐมนตรีก็สละตำแหน่งการค้าให้หมดที่มีเสียงพูดเช่นนี้มาจากการเจรจาเกี่ยวกับการตั้งโรงกลั่นนํ้ามันซึ่งบริษัทเชลล์กับบริษัทของสุริยน ไรวา เสนอต่อรัฐมนตรีกลาโหมพิจารณาอยู่และมีข่าวว่า มีคนเตือนจอมพลสฤษดิ้ในเรื่องนีผมไม่กลัวหรอก การตั้งโรงกลั่นเป็นเรื่องจำเป็น ผมกำลังเจรจาที่จะเอาเงินบาทมาใช้ในการนี้แทนดอลลาร์ว่ากันว่านี่คือที่มาของคำกล่าวในที่ประชุมคณะรัฐมนตรี และในวันที่ ๒๒ สิงหาคม ๒๕๐๐ มีคนพลุกพล่านนั้นเกิดจากการยื่นหนังสือลาออกจากตำแหน่งรัฐมนตรีกลาโหม โดยจอมพลสฤษดึ๋ถึงกับเขียนเป็นจดหมายลาออกด้วยตนเองเขียนถึงนายกรัฐมนตรี กล่องถ่ายภาพ นัยว่ามรสุมทางการเมืองบีบให้ต้องทำอย่างนั้นเนื้อหาของจดหมายจะบอกอะไรแค่ไหน ไม่มีใครรู้ แต่จอมพลสฤษดิได้เปิดให้สัมภาษณ์ในเวลาประมาณ ๑๑.๐๐ น. ถึงการค้าและการลาออกเรื่องการค้าจะมีความหมายอะไร ผมลาออกจากการเกี่ยวช้องการค้ามาสองปีกว่าแล้ว บอกก็ได้ว่าที่ลาออกเพราะมรสุมการเมืองมันหนัก ผมถึงต้องเขียนจดหมายลาออก มีคำถามว่าถ้ามีการยับยั้งยังไงผมก็ออก อีกอย่างที่ผมเป็นรองหัวหน้าพรรคเสรีฯ นั้นผมก็ไม่รู้เรื่อง ผมได้ลังนายทหารให้บอกว่าเป็นการลาออกธรรมดาๆอีกอย่างหนึ่งก็คือผมว่ารัฐบาลแก้ไขปัญหา การเมือง ไม่ถูกตามกระแสความเห็นของประชาซน ประชาชนไม่พอใจคนในคณะรัฐบาลแล้วรัฐบาลก็ไม่แก้ไข ผมบอกเขาว่าเมื่อเขาไม่แก้ไข ผมก็ออก ในส่วนตำแหน่งผบ.ทบ.น่ะผมไม่ลาออกหรอก ใครจะทำยังไงผมก็ไม่ออก แล้วยํ้าอีกว่าไม่ว่ายังไง ผมก็ไม่ออกนึ่คือสถานการณ์การเมืองในช่วงที่ต้องเรียกว่าเป็นหัวเลี้ยวหัวต่อทีเดียว จะเห็นว่าเป้าหมายที่พูดว่าประซาซนไม่ชอบคนในคณะรัฐบาลนั้นหมายถึงผู้ใด ฉะนั้น ในวันเดียวกันแต่เป็นเวลาบ่าย จอมพล ป. กำลังจะขึ้นไปประชุมสภา ณ กล่องไฟถ่ายรูป ราคา พระที่นั่งอนันตสมาคม เป็นที่ประชุมสภาในสมัยนั้น นักข่าวล้อมหน้าล้อมหลังถามถึงการลาออกของจอมพลสฤษดี้นายกรัฐมนตรีบอกว่าได้พบกันแล้ว ก่อนจะกลับก็บอกกับคุณวิจิตราท่านผู้หญิง ว่าให้ช่วยปลอบ ช่วยรั้งเอาไว้บ้าง แต่ถ้าตำแหน่งกลาโหมต้องว่างลง ผมก็จะเป็นเองจะว่าไปรัฐมนตรีว่าการกลาโหมนั้น จอมพล ป. ได้เคยนั่งบริหารมาก่อนแล้ว ว่ากันว่าโดยกระแสการเมืองในช่วงนั้น จอมพล ป. จำใจยกเก้าอี้ตัวนี้ให้ก็เพื่อจะรักษานํ้าใจจอมพลสฤษดิ้ เพราะ พล.ต.อ.เผ่าเกิดไปนั่งรัฐมนตรีว่าการมหาดไทยควบอธิบดีกรมตำรวจการประกาศลาออกของจอมพลสฤษดึ๋จะว่าไปมืความกระทบกระเทือนทีเดียว เหมือนเป็นการประกาศแยกตัวออกมาจากอำนาจทางฝ่ายการเมืองแต่ควบคุมอำนาจทหารเอาไว้ในมือซึ่งถือว่ามีความสำคัญอย่างมากในยุคที่รถกังจะวิ่งออกไปตามถนนแล้วเข้าคุมจุดหรือแหล่งที่สำคัญ เช่น กรมประชาสัมพันธ์ รวมไปถึงสถานีทีวีและอีกหลายแห่งที่เรียกกันว่าเป็นกำลังสำคัญของการปฎิว้ตเลยเซียวแหละจอมพล ป. เองก็เข้าใจจึงได้ตามง้อด้วยตัวเองเพื่อจะได้สังเกตบางสิ่งบางอย่างด้วยตัวเองแทนที่จะให้คนอื่นจอมพลฟ้น รณนภากาศ กล่องไฟสตูดิโอมินิ แม่ทัพอากาศโดดออกมาเป็น กาวใจเชื่อมจอมพลสฤษดิ้แต่ไม่สำเร็จ เพราะตอนบ่ายวันนั้นจอมพลสฤษดึ๋ได้เดินทางไปยังบ้านพักตากอากาศ บางแสน ชลบุรี เป็นการ ปลีกวิเวกเลียชั่วคราว ให้ขบคิดเป็นปริศนาเสียยังงั้นแหละดูเหมือนว่าการลาออกคือการถือธงนำพลพรรค พลตรีคิริ คิริโยธินรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ก็ยื่นใบลาออก เช่นเดียวกับพลโทถนอมกิตติขจร รัฐมนตรีช่วยว่าการกลาโหม ส่งใบลาออก ซึ่งรายนี้ จอมพล ป.อนุมัติพร้อมกับแต่งตั้งให้เป็น รอง ผบ.ทบ. พล.อ.ท.เฉลิมเกียรติ วัฒนางกร รัฐมนตรีช่วยว่าการคมนาคม ส่งใบลาออกในอีกสองวันต่อมาส่วนพลตรีประมาณ อดิเรกสาร รมว.อุตสาหกรรม ลาออกจากตำแหน่งประธานธนาคารอุตสาหกรรมและบริษัท ยางไทย พันเอกหลวงบุรกรรมโกวีท รมช.มหาดไทย ลาออกจากองค์การไฟฟ้า จะเห็นว่ากระแส
กล่องไฟถ่ายภาพสินค้า

กลุ่มเราก็มีอาการไม่ต่างกันยกเว้นอยู่คนเดียวที่ถือกล่องไฟถ่ายภาพคนนี้ชอบถ่ายภาพเป็นชีวิตจิตใจ

เริ่มมีเสียงโอ้กอ้าก มีเสียงจานชามหรือช้อนส่งเสียงมาบ้าง ผมคงบอกได้ว่า ผมเมาคลื่นแล้ว และคนอื่นๆ
ในกลุ่มเราก็มีอาการไม่ต่างกันยกเว้นอยู่คนเดียวที่ถือจานข้าวแล้วใช้ช้อนไล่ต้อนจานอีกใบที่ใส่ไข่เจียวที่เลื่อนไปมาตามแรงที่เรือโคลง ผมนอนเงียบเพราะไม่มีอะไรที่จะอาเจียนแล้ว คุณเภา คุณศรีรัตน์และคุณสนิทมีอาการไม่ต่างกันหม่อมคนเดียวที่กินข้าวกับไข่เจียวด้วยความสนุกพร้อมทั้งส่งเสียงเฮฮาในขณะที่คนอื่นนอนยึดเรือไว่ใม่ให้กลิ้งไปกลิ้งมาคุณบุรีกับลูกเรือไม่มีอาการเมาคงเป็นเพราะความเคยชิน
มันแปลกอยู่อย่างหนึ่งก็คือระหว่างที่เรือแล่นเหมือนกาบมะพร้าวโต้คลื่นนั้น ท้องทะเลเวิ้งว้างอยู่กลางกระแสลมแรงไม่มีเรือสักลำ กล่องสตูดิโอมินิ ไม่ว่าจะแล่นสวนให้เห็นหรือแล่นตามหลังมาในความเวิ้งว้างกลางระลอกคลื่นนั้นมีเรือตังเกลำเดียวลำนี้เท่านั้นที่แล่นโต้คลื่นที่มีทั้งแรงและบรรเทาเป็นจังหวะๆทุกคนเมากันหมด แต่ข้าพเจ้าไม่เมาหม่อมเฉลิมจิตรส่งเสียงอย่างสนุก ในมือยังถือแก้วเหล้าข้างหนึ่งถือขวดเหล้าอีกข้างหนึ่งไว้แต่ไม่ว่าจะอย่างไรเรือตังเกลำกระจ้อยก็สามารถเอาตัวรอดมาจนถึงท่าเรือสงขลาเอาเมื่อเวลาราวๆ หกโมงเย็นผมเห็นที่ท่าเรือนั้นมืเรือแทบทุกชนิดคือเรือเดินทะเลเรือตังเกหลายขนาดคือกลางและใหญ่จอดกันแน่นคนในเรือออกมามองเรือตังเกเราเป็นตาเดียวกันหมด มีเสียงตะโกนว่า มาได้ยังไงในความเป็นจริงนั้นมีมรสุมเกิดขึ้นและประกาศเตือนชาวเรือเมื่อสามวันก่อน เราไม่ได้เปิดวิทยุฟังกันจึงไม่รู้เรื่องคุณบุรีบอกผมในคืนนั้นว่า เราเจอหางไต้ฝ่น กล่องไฟถ่ายภาพ ราคา
ถ้าเจอไต้ฝ่นละก็อย่าให้พูดเลย แล้วเราก็พูดถึงหม่อมซึ่งไปนอนโรงแรมนั้นเป็นเชิงแปลกใจเล็กๆหม่อมนึ่ไม่เมาคลื่นแต่เมาบกอาการเมาบกก็คือหม่อมจะเดินโดยไม่ใช้มือข้างหนึ่งเลาะผนังไม่ได้ ฝ่าทะเลนํ้าหมึกต้องถือว่าเป็นประสบการณ์ ฝ่าทะเลนํ้าเค็ม ที่ต้องจดจำทีเดียวอันที่จริงแล้ว ผมเคยนั่งเรือจับปลาโป็ะน้าลึกของคุณตาซึ่งไม่ได้ไปด้วยเป็นเรือใบที่คุณตาคุมต่อเอง ใช้ในการทำโป๊ะนํ้าลึก เรือออกจากบ้านคุณตาตอนเช้ามืดไปถึงโปิะราวๆ เที่ยงเห็นจะได้ ช่วงนั้นเป็นฤดูของปลาทูคนเรือลากอวนขึ้นมาปลาทูมากมาย คนเรือติดไฟเตาถ่านเหมือนจะรู้ใจคือเอาปลาทูที่ขึ้นจากน้ำ ปลาน้ำเค็มขึ้นมาเห็นท้องฟ้าก็ตายแล้ว มาปิ้งแล้วส่งให้ผมจิ้มกับน้าปลา รสชาติอย่าได้บอกใครเซียว มีความมัน ความหวานพร้อมและเค็มนิดหน่อยด้วยน้าปลาเมื่อจับปลาได้ที่แล้วก็กลับมาถึงบ้านราวๆ บ่ายสาม คนงานหาบปลาไปให้คุณแม่ผมขายส่งแม่ค้าปลีก กล่องไฟสตูดิโอ ราคา ทั้งไปและกลับผมไม่เมาคลื่นเลยทั้งๆ ที่โปิะน้ำลึกต้องแล่นมาถึงแถวๆ คลองด่านเอาเป็นว่าการฝ่าทะเลจนกลับมาได้อย่างปลอดภัยครั้งนี้ ทั้งคุณตาและคุณศรีรัตน์บอกว่าใครอย่ามาชวนอีกเลย คืบทะเล ศอกทะเล มันสนุกแทบตาย ว่าอย่างนั้นทุกคนกลับเข้าทำงานต่อไป ผมมาสางงานซึ่งคุณประมวล เอี่ยมวัฒน์ เสียชีวิตไปแล้ว ดูแลแทนได้อย่างดียิ่ง ผมไม่ได้เขียนเรื่องนี้ในเบื้องหลังข่าว เพราะเห็นว่าเป็นเรื่องส่วนตัว แต่ที่เห็นนี้เอามาเขียนถึงเพราะถือว่าเป็นประสบการณ์ในงานจะว่าไปแล้วการเมืองกำลังเข้าขั้นวิกฤต ด้วยความขัดแย้งระหว่างฝ่ายตำรวจคือ พล.ต.อ.เผ่ากับจอมพลสฤษดิ้ อันทำให้นายกรัฐมนตรีเองตกที่นั่งเหมือนศึกขนาบข้าง แล้วอยู่ๆ คืนหนึ่งระหว่างที่นั่งดูละครโทรทัศน์ เรื่องรอยร้าวในดวงใจของ แก้วฟ้า เนื้อหาเป็นเรื่องระหว่างเมียหลวง-เมียน้อย กำลังสนุก แต่แล้วก็มีสไลด์คั่นแทน เมื่อแรกก็คิดว่าคงเกิดขัดข้องทางเทคนิค แต่เมื่อสไลด์นั้นเปลี่ยนไป ออกอากาศใหม่ก็เป็นสารคดีอะไรก็ไม่รู้สถานการณ์แบบนี้ทำให้เกิดสงสัยว่า เกิดเหตุอะไรกับรัฐบาลหรือเปล่า แต่ก็รอดูจนปิดสถานีแล้วก็ไม่มีวี่แววว่าเป็นเหตุทางการเมือง พอไปทำงานซึ่งหมายถึงผมแวะไปที่กรมประซาสัมพันธ์จึงรู้สาเหตุเพราะคนในกรมรู้เรื่องมาเล่าให้ฟัง กล่องไฟฉากขาว ระหว่างที่ละครออกอากาศ ละครจะออกสดไม่มือัดเทปล่วงหน้าเหมือนปัจจุบัน นั้น อธิบดีกรมประชาสัมพันธ์ในฐานะประธานสถานีวิทยุโทรทัศน์ได้สั่งทางโทรทัศน์ห้ามออกอากาศและให้เปลี่ยนเป็นอย่างอื่น ทางสถานีจึงต้องทำตามคำสั่งสาเหตุนั้นมาจากเนื้อหาของเรื่องระหว่างเมียหลวงเมียน้อย สามีได้เมียน้อยแล้วทอดทิ้งเมียหลวง ในขณะที่เมียน้อยซึ่งตั้งครรภ์คิดจะทำลายสายเลือดพลโท ม.ล.ขาบบอกว่าเนื้อหาแบบนี้ไม่สมควรออกอากาศ และในตอนสายของวันนั้น รุ่งขึ้นจากวันออกอากาศ ได้ให้สัมภาษณ์เป็นความผิดของผมเองที่ไม่ได้ตรวจเรื่องเสียก่อน จะไปโทษใครไม่ได้ ผมนั่งดูมาตั้งแต่ต้นจนรู้สึกทนดูไม่ไหว  กล่องไฟ light box เลยต้องสั่งให้เขาตัดออกผมถือว่าเป็นเรื่องผิดศีลธรรมและวัฒนธรรมมีนักข่าวถามหยั่งเชิงว่า เป็นคำสั่งที่มาจากคนอื่นหรือเปล่า พลโทม.ล.ขาบยืนยันว่าไม่ใช่ และเหมือนจะรู้ใจนักข่าวจึงแถมคำตอบด้วยว่าถ้าคิดว่าเป็นคำสั่งจากท่านผู้หญิง ละเอียด พิบูลสงคราม ละก็ ท่านไม่เคยมายุ่งเกี่ยวงานของผมละครสมัยก่อนนั้น ผู้จัดจะหาสปอนเซอร์เอง ละครเรื่องนี้บริษัทวิทยาคม จำกัด เป็นผู้อุปถัมภ์หลัก ได้เล่าให้นักข่าวฟังในวันต่อมาว่าทางบริษัทได้ทำหนังสือถึง ท.ท.ท. ขอถอนโฆษณาทิ้งหมด ทุกรายการและรวมถึงวิทยุ ท.ท.ท. ด้วยผมไม่โทษใครทิ้งนั้น เพราะสถานีทีวีเป็นของท่าน ม.ล.ขาบแต่ กล่องไฟถ่ายภาพสินค้า

เมื่อสมควรแก่เวลาแล้วเรือตังเกพาหนะของเราจึงแล่นมาลอยลำหน้าเกาะพงันตามเคยและก็มีอยู่ลำหนึ่งเขาใช้ไฟของกล่องไฟสตูดิโอล่อปลาและถ่ายภาพ

เรือที่ออกมาจับปลาจะละเม็ดดำด้วยการล่อให้ปลามาเล่นกับแสงไฟมีหลายลำ จะเห็นเป็นหย่อมๆ ทิ้งระยะห่างพอควรแต่ก็เห็นกันได้ เมื่อสมควรแก่เวลาแล้วเรือตังเกพาหนะของเราจึงแล่นมาลอยลำหน้าเกาะพงันตามเคย โดยกำหนดว่ารุ่งขึ้นจะไปเกาะสมุยออกเรือกลางคืนๆโดยไม่จำเป็นจะไม่ได้ดูทิวทัศน์ คุณบุรีบอกจึงมาลอยลำคุยกันต่อบ้างงัดเอานํ้าเปลี่ยนนิสัยมาดื่มกินกันครึกครื้นเฉพาะอย่างยิ่ง หม่อม จะ
สนุกกว่าใคร มีคนร่วมวงแทบจะทุกคนยกเว้นผมเสบียงกรังชนิดนํ้าจึงร่อยหรอลงเพราะคิดว่าเมื่อถึงสมุยแล้วก็จะหามาเพิ่มเติมได้แล้วไม่นานเกินรอเรือตังเกก็ออกจากหน้าเกาะพงันมุ่งหน้าไปสมุยทะเลไม่มีคลื่นที่ใหญ่โตอะไรเป็นระลอกธรรมดา กล่องไฟถ่ายรูป ราคา เพียงแต่ลมค่อนข้างแรงและคลื่นจะเป็นระลอก หัวแตกเรียกตามภาษาซาวเรือ มีความเพลิดเพลินจนน่าถือได้ว่าเป็นการพักผ่อนจริงๆมีน้ำกับฟ้าให้เห็นคุณเภาคงนึกสนุกหันมาถามคุณบุรีว่าแถวนี้ใช้เบ็ดลากจะได้ไหมคำตอบก็คือปลาที่กินเบ็ดเกี่ยวผ้าก๊อซย่านนี้ไม่น่าสนใจอะไรก็เลยพูดคุยกันสนุกและชมวิวทิวทัศน์กันไปเล่นกับแสงไม่นานนักเรือของเราก็มาจอดสงบนิ่งอยู่หน้าเกาะสมุยผมคงอธิบายไม่ได้ว่าเป็นด้านไหนของเกาะรู้แต่ว่ามีเรือหาปลาหลายลำที่จอดกัน ใช่แต่เท่านั้น ยังมีเรือแจว ชนิดโล้เรือมารอรับส่งไปขึ้นเกาะด้วยผมจำไม่ได้ว่าราคาเท่าไหร่ทุกคนจึงขมีขมันจะขึ้นเกาะ อย่างน้อยได้ยืดเล้นยืดสายสมุยในช่วงเวลานั้นนับห่างจากนี้ก็สี่สิบเก้าปี ถือได้ว่ายังไม่เจรืญอะไรมากผมไม่เคยเห็นอาคารร้านค้าที่จะบ่งบอกถึงการเป็นแหล่งท่องเที่ยว มีตลาด มีร้านค้าเรียงรายไม่ยืดยาวนักถนนก็ไม่เรียบราบ เรียกว่าความเจริญยังมาไม่ถึงหรือจะเรียกว่าความตื่นตัวยังไม่เกิดก็คงได้ กล่องไฟถ่ายภาพ ราคา คุณบุรีชื้อกับข้าวให้ลูกเรือที่ตามมาเอากลับไปที่เรือก่อนดูเหมือนว่าอาหารเย็นวันนั้นถูกจัดก่อนจะยํ่าคํ่าเสียซาไปมีสองสามคนที่ยังอยากจะไปให้ ถึงสมุยตามประสาชายหนุ่มทั้งหลาย เพราะมีเรือรับส่งสบายสบายผมอยู่ในเรือเมื่อมีคนขึ้นบกแล้วก็มีเสียงคนร้องขายขนม แม้แต่กาแฟก็มีปรากฏว่าสินค้าขนมหรือกาแฟนั้นอยู่ในเรือพายที่แม่ค้าพ่อค้าจะพายมาร้องขายกับชาวเรือที่จอดกันหน้าเกาะนั้นแหละผมเรียกเจ้าขนมมาในเรือมีขนมหวานหลายอย่าง มีตะเกียงรั้วเป็นแสงสว่างก็เลยคุยมั่ง ชื้อขนมแบบโอ้เอ้มั่งเป็นอีกมุมหนึ่งชองชีวิตชาวเรือคนที่ขึ้นบกไปลังเสียกับสาวๆ บนฝังกลับมาแล้วเรียกหาเจ้าขนมอีกรอบ คุณบุรีบอกว่าวันนี้ลืมซื้อเสบียงมาเติมให้แต่ว่าเบียร์ไม่มีนะจะมีก็แค่แม่โขงเท่านั้น ก็ไม่มีใครว่าอะไรคืนนั้นคงนอนดึกแต่ก็หลับสบายก่อนหลับผมแว่วเสียงคุณบุรีบอกว่า ตามใจจะอยู่อีกคืนก็ได้ด้วยเหตุนี้ตื่นเช้าจึงยังคงลอยลำอยู่หน้าเกาะคุณบุรีเตรียมจะไปชื้อหาน้ำอมฤตและอาหารกระป๋อง ใครอยากตามไปก็ได้ ผมขออยู่กับเรือเรือพายขายขนมไม่มีมาร้องขายตอนกลางวัน คงเป็นเพราะชาวเรือทั้งหลายจะขึ้นบกกันก่อนสิบเอ็ดโมง กล่องถ่ายภาพ ราคา
คุณบุรีกับลูกเรือก็กลับมาพร้อมด้วยสิงของที่ต้องการ แต่ปรากฏว่านํ้าพรรค์อย่างว่ามีไม่กี่ขวดสำหรับอาหารกระป๋องก็จะมีแต่ของเค็ม เช่น ผักกาดดองปลากระป๋องแทบจะหาไม่ได้ ซื้อเอาไข่และปลาสดมาพอทำกับข้าว คุณสนิท คุณศรีรัตน์และคุณเภากลับมาตอนบ่าย ไม่รู้เหมือนกันว่าไปแกร่วอยู่แถวไหนและเป็นอันตกลงกันว่าเช้ารุ่งขึ้นจะออกเรือไปสงขลาราวๆหกโมงเช้าเรือออกจากที่จอด โบกมือลาสมุยเรือแล่นมาประมาณไม่ถึงชั่วโมงคุณบุรีบอกว่า ท่าไม่ดีแล้วชี้ให้ดูข้างหน้าไกลออกไป ขอบฟ้าสีคลาทะมึน มีลมแรง ไต้ก่งก็เห็นด้วยกับคุณบุรีว่ากลับสมุยดีกว่ายังไม่มีใครคิดว่าอะไร คืนวันนั้น หม่อมสนุกกับแม่ค้าเรือพายขายขนมมีการจับวงคุยถึงการเมืองบ้างตามประสาคนทำงานแล้วก็นอนกัน ไม่มีใครอยาก ขึ้นบก เหมือนคืนแรก กล่องถ่ายรูป ราคา รุ่งเช้าเรือของเราก็ออกจากท่าที่จอด แต่แล้วก็ไปไม่รอดเพราะเมฆยังทะมึนลมยังแรงคุณบุรีสั่งกลับอีกพร้อมกับบอกว่ายังไงพรุ่งนี้เช้าเราคงเดินทางได้แน่ ไม่มีใครออกความเห็นความรื่นเริงชักจะไม่บันเทิงอารมณ์ ไม่มีใครบอกได้ว่า เกิดอะไรขึ้นไม่มีใครนึกถึงวิทยุที่เคยเปิดฟังเพลง ความกังวลใจทำให้ลืมกันหมดเช้าอีกวันที่คุณบุรียืนยันจะต้องเดินทางให้ได้นั้นลักษณะอากาศดูแล้วไม่แตกต่างจากสองวันที่ผ่านมาลักเท่าไหร่คุณบุรีแสดงความหนักใจถามไต้ก๋ง ไต้ก๋งก็บอกว่า แล้วแต่เถ้าแก่แต่ก็ไม่เห็นมีเรือของใครออกจากท่ากันเลยนี่นาคุณบุรีพูดเปรยๆ แต่ก็ไม่สั่งอะไร ทุกคนตื่นกันหมดแล้วมองเห็นสภาพท้องฟ้าและแรงลมที่เริ่มจะแรงขึ้นคลื่นที่เห็นเป็นระลอกก็เริ่มมีความสูงขึ้น เรือถูก
คลื่นโยนใส่จนเรือโคลงไปโคลงมาคุณบุรีเข้าไปยืนอยู่กับนายท้ายเรือด้วยสีหน้าไม่สบายนัก
กล่องไฟถ่ายรูปสินค้า