วันอังคารที่ 5 กรกฎาคม พ.ศ. 2559


การลาออกและเป็นข่าวในหน้าหนังสือพิมพ์นั้นไม่เด่นเท่าเรื่องการประกอบกล่องไฟสตูดิโอและการถ่ายภาพอย่างละเอียด

การลาออกและเป็นข่าวในหน้าหนังสือพิมพ์นั้น คนที่น่าจะนั่งนอนไม่เป็นสุขก็คือนายกรัฐมนตรี เพราะคงอ่านใจคนคุมกำลังสำคัญคือจอมพลถ้าพูดประสาชาวบ้านก็ต้องว่า จะมาไม้ไหนเมื่อการเมืองฝ่ายรัฐบาลกำลังเจอคลื่น น่าจะเป็นคลื่นที่หนักกว่าที่พวกเราไปเจอมาแน่ๆ ฝ่ายการเมืองนอกสภาคือกลุ่มไฮด์ปาร์ก อ่านเกมการเมืองมาตลอดย่อมอ่านได้ว่า กระแสกำลังเบี่ยงเบนไปแบบไหนสนามหลวงจึงเริ่มระงมด้วยเสียง รัฐบาลลาออก รัฐบาลลาออกไป กล่องไฟถ่ายภาพ ทางซักฝ่ายค้านเองก็ใช้การยื่นเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจคณะรัฐบาลกระแสที่รวนเรน่าจะเป็นผลให้รัฐบาลนี้อยู่ไม่ได้ เรียกว่าเจอทั้งทางตรงจากจอมพลลฤษดิ้ ทางอ้อมไอด์ปาร์ก และกินรวบเลยก็คือฝ่ายค้านรัฐบาล จอมพล ป. พิบูลสงคราม นั้นเริ่มก้าวขึ้นนั่งเก้าอี้นายกมาตั้งแต่ต้นปี ๒๔๙๑ ต่อเนื่องเรื่อยมาจนถึงชุดที่๒๖ หลังการเลือกตั้งสกปรก ตั้งแต่ ๒๑ มีนาคม ๒๕๐๐ เป็นต้นมา มีความสามารถผ่านร้อน ผ่านหนาว ฝ่าคลื่นปีนลมมาอย่างชนิดที่หาตัวจับได้ยากทั้งด้วยมาดและท่วงท่าสุขุมลุ่มลึก ไม่ว่าใครก็ต้องอ่านได้ว่า คลื่นที่ทยอยเป็นระลอกหนนี้คงจะทำให้รัฐนาวา พิบูลสงคราม ล่มแน่ๆ แต่ขึ้นชื่อว่าชาติเสือหนีไม่พ้นจะต้องไว้ลาย ผมรวบรวมวิธีการของบุรุษผู้เจนเกมการเมืองมาเล่าไว้ให้เห็นว่า ปีมือของท่านนั้นรอบตัวทีเดียวประการแรก การเปิดอภิปรายทั่วไปไม่ไว้วางใจรัฐบาลต้องแก้ไขก่อนโดยใช้วิธีจัดการกับ ส.ส.ฝ่ายค้านบางคนที่ ซื้อได้ด้วยกระสุนดินดำ ถอน กล่องไฟสตูดิโอ ฉากขาวชื่อออกจากการลงชื่อในการขอเปิดอภิปรายก่อนที่จะมีการยื่นต่อสภาผู้แทนราษฎร บางคนขอลาออกจากพรรคแล้วไปสมัครเข้าพรรคเสรีมนังคศิลา นับดูจำนวนยังกํ้ากึ่งจึงจัดการเร่งด่วนให้ฝ่ายค้านคนไปเยือนสหรัฐอเมริกาภายในช่วงเวลาของการอภิปรายในสภา ทั้งสี่คนจะหรือเปล่าว่าเป็นกลเม็ดที่มาจากรัฐบาล ไม่มีใครตอบได้คนทั้งคือ นายใหญ่ ศวิตชาติ นายบุญเท่ง ทองสวัสดิ์ นายญวง เอี่ยมศิลา และนายบุญคุ้ม จันทรศรีสุริยวงค้ โดยจะไปเข้าร่วมประชุมเอ็มอาร์เอขณะเดียวกัน รัฐบาลถือโอกาสแต่งตั้ง ส.ส. ประเภท ๒ เพิ่มอีก๑๓ คนเพื่อให้จำนวน ส.ส. ประเภท ๒ มีจำนวนมากพอผสมกับ ส.ส.พรรคเสรีมนังฯ ที่จะยกมือไว้วางใจรัฐบาลประกอบกับเสียงของฝ่ายค้านมีอันเป็นโยกย้ายถอนชื่อรวมทั้งเดินทางไปสหรัฐอเมริกา ฝ่ายค้านเดินอีกแต้มคือขอให้มีการถ่ายทอดเสียงวิทยุในการอภิปรายซึ่งทำไม่สำเร็จ มาถึงตรงนี้ จอมพล ป. ค่อยสบายอกสบายใจขึ้นผลที่ตามมาในการประชุมเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลจึงดำเนินไปอย่างที่เรียกว่าไม่เป็นผลอย่างที่ฝ่ายค้านต้องการ เพราะเมื่อจบการอภิปรายแล้ว สภาไม่สามารถลงมติได้ กล่องไฟ light box ถือว่าการแก้เกมการเมืองของจอมพล ป. ล้มถูทธิพล ใครคิดจะเอาเป็นตัวอย่างบ้างก็ได้ความรวนเร บรรยากาศทางการเมืองและอำนาจที่ถูกแยกแตกออกเป็นเสี่ยงตามที่เป็นข่าว และผมเก็บเอามาฝากไว้ให้รับรู้นี้ ที่มาของมันคือ การเลือกตั้งที่ใช้อำนาจรัฐเข้ามาดำเนินการอย่างทระนง ความแตกแยกในคณะรัฐบาล มีการโยกย้ายพรรคได้ด้วยการใช้เงินและมีผลทันทีลองเปรียบกันดูก็แล้วก้นปิดฉากผู้ครอง อำนาจ ทางการเมืองคงยังมีผู้คนอีกจำนวนไม่น้อยที่ได้รับรู้และประสบกับเหตุการณ์สำคัญในปีกึ่งพุทธกาล ที่มีการเลือกตั้งทั่วไปอันเป็นเหตุสำคัญในทางการเมือง เกิดเป็นเรื่องถึงฃั้นมืการชุมนุมระหว่างประชาชนกับนิสิตนักศึกษาจากหลายมหาวิทยาลัยพร้อมใจกันเดินขบวนเรียกร้องให้มีการรื้อเลือกตั้งเสียใหม่แต่รัฐบาลยุคนั้นมีความเชื่อว่า อำนาจที่มีอยู่พร้อมทั่งเสียงสนับสนุนในสภาอันถือว่าเป็นประชาธิปไตยตามครรลองแห่งรัฐธรรมนุญ จึงเฉยเมยและดำเนินการจัดตั้งรัฐบาลท่ามกลางเสียงวิพากษ็วิจารณ์ที่ยังเป็นควันความลอยอยู่ทั่วไปความขัดแย้งตามมาอีก ระหว่างผู้กุมอำนาจและคุมกำลังจนทำให้เกิดการมองว่า จอมพล ป. พิบูลสงคราม นั่งเก้าอี้อยู่ระหว่างเขาควายที่ light box mini อาจจะมีการปะทะกัน แล้วคนตรงกลางจะบาดเจ็บแต่คนนั่งตรงกลางบนเก้าอี้นายกรัฐมนตรี กลับมองว่าในเกมหรือเรียกว่าหมากการเมืองแล้ว ยังถือว่ามีความชำนาญกว่า เพราะผ่านมาไม่น้อยกว่าแปดปีแล้ว การมองหมากวางเรือ วางม้าสกัดกั้นอีกฝ่ายหนึ่งน่าจะเอาชนะได้บนกระดานหมากการเมืองเมื่อจอมพลสฤษดิ้ลาออกจากเก้าอี้รัฐมนตรีพร้อมกับนายทหารคู่ใจอีกหลายนายก็มีปฏิกิริยาเดินตามรอย ฝ่ายค้านออกมาวางหมากอีกตัวหนึ่งพร้อมประจวบนักไฮด์ปาร์กออกมาขับไล่ หมากหลายตัวบนกระดานที่ยังไม่จบ จอมพล ป. ก็สามารถเดินหมากทับซ้อนจนถือว่าขณะนี้รูปหมากมีความเหนือกว่าเพราะแก้ไขได้เป็นเปลาะๆแล้วจอมพลสฤษดิ้ผู้วางหมากให้ผู้ร่วมการลาออกด้วยหลบออกจากกรุงเทพฯ ไปนอนฟังเสียงคลื่นให้เป็นที่ครึกครื้นหัวใจเสียที่บ้านพักบางแสนหรือแหลมแท่นไม่มีใครรู้ได้ว่าจอมพลสโเษดี้คิดวางหมากที่ถือว่าเป็นตาสำคัญอย่างไร เนื่องเพราะที่บ้านพักนั้นการจะไปพบหรือการเข้า-ออกเต็มไปด้วยการกวดขันระแวดระวังเต็มที่ studio light box โดยมีนายสงวน คันทรสาขา ส.ส.นครพนมผู้เป็นญาติสนิทสังกัดพรรคสหภูมิในตำแหน่งเลขาธิการ เป็นคนคอยดูแลใกล้ชิดขณะเดียวกันก็ไม่มีการแพร่งพรายออกมาว่า ฝ่ายที่คุมกำลังตำรวจคือ พล.ต.อ.เผ่า ศรียานนท์ ที่ยังใกล้ชิดจอมพล ป. พิภูลสงคราม กำลังร่วมคิดกันที่จะวางหมากทางการเมืองให้บรรลเป้าหมายเฉพาะอย่างยิง การวางแผนของจอมพลสฤษดินันเต็มไปด้วยนายทหารที่ล้วนจะเสนอแนวทางที่จะไปสู่เป้าหมายเหมือนกันแต่จะเกาะติดกับเสียงเรียกร้องของประชาชนที่ ขับไสไล่ส่งให้รัฐบาลออกไปและแล้ว ยังไม่ทันที่ฝ่ายจอมพล ป.จะเดินหมาก จอมพลสฤษดีตัดสินใจวางหมากอีกตัวหนึ่งคือการลาออกเช่นเดียวกัน หมายถึงว่าการลาออกครั้งนี้น่าจะมีผลสะเทือนถึงเก้าอี้นายกรัฐมนตรี และยังมีหมากตามมาอีกพร้อมที่จะเดินไปข้างหน้าการลาออกที่ว่านี้คือ จากตำแหน่ง ส.ส. ประเภทสองรวมทั้งหมดถึง ๕๖ คน เป็นนายพลแห่งกองทัพบก ๓๖ นาย นายพลเรือกับนายพล กล่องไฟถ่ายภาพสินค้า

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น